อาหารไทยแท้ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่ออกรสหวาน นั่นเป็นเพราะในสมัยก่อน บ้านเราอุดมสมบูรณ์ไปด้วยมะพร้าวและตาลสด ซึ่งแม่ครัวส่วนใหญ่ก็จะนำมาดัดแปลงเข้ากับเมนูอาหารที่จัดสรรขึ้นมา แต่น้องๆ แม่บ้านสมัยใหม่ อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับอาหารรสชาติหวานกันมากนัก แต่แอดมินก็อยากแนะนำให้ลองทำปลาตะเพียนต้มเค็มทานดูกันบ้าง ถึงจะหวานแต่ก็ไม่ได้หวานจนเลี่ยน แต่กลับหวานหอมด้วยรสชาติจากอ้อยสด ซึ่งเป็นเสน่ห์ของอาหารไทยจานโปรดจานนี้เลยล่ะค่ะ
เครื่องปรุง ปลาตะเพียนต้มเค็ม
- ปลาตะเพียน
- ผงพะโล้
- ซีอิ๊วขาว
- ซอสถั่วเหลือง
- อัอย
- ขิงแก่
- น้ำมะขามเปียก
- กระเทียม
- หอมแดง
- พริกไทยเม็ด
- รากผักชี
- น้ำตาลโตนด
- ซีอิ๊วดำ
- มะละกอดิบ
- พริกขี้หนูแห้ง
วิธีทำ ปลาตะเพียนต้มเค็ม
- ทำความสะอาดปลาตะเพียนให้เรียบร้อย ก่อนจะใส่ปลาลงในหม้อให้ทุบอ้อยให้แตกแบบหยาบๆ วางรองก้นหม้อ พร้อมด้วยขิงแก่หั่นแว่นๆ กระเทียม หอมแดง พริกไทยบุบหยาบ รากผักชีบุบหยาบๆ น้ำตาลโตนด วางเครื่องปรุงเหล่านี้เรียงก้นหม้อ แล้วจึงนำตัวปลาวางเรียงอีกชั้น พยายามอย่าให้ตัวปลาสัมผัสกับผิวหม้อ เพราะอาจจะทำให้ไหม้ได้ ในกรณีเคี่ยวปลาแล้วน้ำงวด ซึ่งการทำปลาตะเพียนต้มเค็มนี้ จะไม่มีการคน หรือพลิกตัวปลาเป็นอันขาด
- พอเรียงตัวปลาเสร็จ ก็ราดด้วยน้ำมะขามเปียก และวางมะลอกอดิบ 2-3 ชิ้น จะช่วยให้ก้างปลานิ่มเร็ว เหมือนก้างปลากระป๋อง สามารถเคี้ยวได้ ไม่ติดคอ จากนั้นก็ราดซีอิ๊วขาว ซอสถั่วเหลือง วางพริกขี้หนูแห้งบนตัวปลา แล้วใส่น้ำสะอาดจนท่วมตัวปลา หยดซีอิ๊วดำ 2-3 หยด เพื่อช่วยให้สีสวยขึ้น
- เคี่ยวต้มเค็มด้วยไฟรุมๆ ประมาณ 5 ชั่วโมง ระหว่างนั้นให้คอยเปิดดูเรื่อยๆ เผื่้อว่าน้ำงวดมากไปให้เติมน้ำสะอาดด้วยปริมาณเท่าเดิม เคี่ยวไปจนครบจำนวนชั่วโมงที่จับเวลาไว้ ก็จะได้ปลาตะเพียนต้มเค็ม ที่มีรสชาติหวานหอม และก้างเปื่อยจนสามารถเคี้ยวได้ทั้งตัวโดยไม่กลัวติดคอค่ะ
ด้วยความที่ใช้เวลาทำนานหลายชั่วโมง และปลาตะเพียนค่อนข้างจะหายากสำหรับตลาดสดกลางใจเมืองในยุคปัจจุบัน ถ้าใครมีฝีมือ และอยากมีรายได้เสริม ก็สามารถทำขายส่งแบบดิลิเวอร์ลี่ได้นะคะ ซึ่งสมัยนี้การขายอาหารออนไลน์ Made to Order กำลังเป็นที่นิยมกันเลย ที่สำคัยแม่ค้าไม่จำเป็นต้องเช่าหน้าร้าน แค่มีเฟซบุ๊ค หรือแฟนเพจ ก็สามารถทำธุรกิจขายอาหารได้แล้วค่ะ
#อยากกินต้องทำเอง
#Kitchenpui