ไม่ว่าเวลาจะหมุนไปกี่ปี ไข่พะโล้ก็ยังคงเป็นกับข้าวคู่ครัวไทยไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่ไข่พะโล้ที่เห็นทำขายกัน หน้าตาออกจะเปลี่ยนไป คล้ายๆ แกงไข่ใส่ซีอิ๊ว รสชาติหวาน ที่สำคัญความหอมของสามเกลอแทบจะไม่มีให้สัมผัส
วันนี้ สยามอาชีพ เลยอยากจะมาแจกสูตรอาหาร ไข่พะโล้สูตรโบราณ ที่ไม่เน้นการใช้ซีอิ๊วดำมาสร้างภาพให้เกิดสีสรรสวยงาม แต่เป็นการเคี่ยวน้ำตาลให้เป็นสีน้ำตาลสวยๆ ทำยังไงตามไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
สูตรอาหาร ไข่พะโล้สูตรโบราณ
เครื่องปรุง ไข่พะโล้สูตรโบราณ
- ไข่เป็ด
- เครื่องพะโล้
- หมูสามชั้น
- เต้าหู้พวง
- ผักชี
- กระเทียม
- พริกไทย
- น้ำตาลมะพร้าว
- น้ำปลาดี
- เกลือ
- เห็ดหอม
วิธีทำ ไข่พะโล้สูตรโบราณ
- ต้มไข่เป็ดในน้ำเดือด ใส่เกลือเล็กน้อย เพื่อให้เปลือกไข่ร่อนทำให้แกะง่าย
- โขลกสามเกลอ ซึ่งหมายถึง รากผักชี กระเทียม พริกไทยพอหยาบ หั่นหมูสามชั้นชิ้นใหญ่ เวลาต้มนานไปจะได้ไม่หดเหลือชิ้นนิดเดียว จะดูไม่สวยงาม
- ล้างเห็ดหอมให้สะอาด แล้วแช่น้ำไว้จนนิ่ม จึงนำมาตัดเป็นชิ้นๆ
- ตั้งกะทะ ไฟกลาง ใส่น้ำมันผัดสามเกลอจนหอม แล้วนำสามชั้นที่หั่นไว้ลงมาผัดจนเนื้อหมูตึง ใส่ผงพะโล้และไม้เครื่องเทศ เช่น โป๊ยกั๊ก อบเชย ลูกกระวาน กานพลู ฯลฯ ลงไปผัดเพื่อเพิ่มความหอมให้อบอวลยิ่งขึ้น จากนั้นจึงใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไป เติมน้ำสะอาดเล็กน้อย เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นคาราเมล หรือสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งเป็นสีธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งพาซีอิ๊วดำ ซึ่งบางคนไม่ชอบกลิ่นของมัน
- พอได้น้ำพะโล้ที่มีลักษณะเป็นคาราเมลแล้ว ให้ใส่ไข่เป็ดต้ม เห็ดหอม เต้าหู้พวง (กรีดให้ตัวเต้าหู้แยกออกจากกันเพื่อให้น้ำพะโล้ซึมซาบเข้าไปได้โดยง่าย) มัดต้นผักชีลงไปด้วย แล้วใส่น้ำสะอาดจนท่วม เคี่ยวต่อไปเพื่อให้หมูสามชั้นเปื่อยนุ่ม และไข่เป็ดจะมีสีน้ำตาลอ่อนสวยงาม
- ปรุงน้ำพะโล้ด้วยน้ำปลาดี เกลือเล็กน้อยเพื่อชูความเค็มให้แหลมยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวเบรคน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ ทำให้พะโล้ไม่ออกรสหวานมากเกินไป
- ตุ๋นไฟรุมๆ ไปเรื่อยๆ ประมาณ 1 ชม. หรือกว่านั้น ก็จะได้ไข่พะโล้หน้าตาน่ากิน 1 หม้อใหญ่ๆ ค่ะ
ไข่พะโล้เป็นอาหารจานโปรดของทุกเพศ ทุกวัยจริงๆ นะคะ โดยเฉพาะเด็กๆ จะชอบน้ำพะโล้ราดข้าวเป็นพิเศษ ที่สำคัญไข่พะโล้ จะต้องเป็นไข่เป็ดเท่านั้น จึงจะอร่อยครบสูตร เพราะไข่เป็ดยิ่งต้มนานเนื้อไข่ขาวก็จะยิ่งเหนียวหนึบ ไม่แตกจนไข่แดงกระจายเต็มหม้อเหมือนไข่ไก่ เพื่อนๆ คนไหนชอบกินไข่พะโล้ ทำไว้เลยหม้อใหญ่ๆ แบ่งเก็บไว้กินได้หลายๆ วัน ยิ่งนานก็ยิ่งอร่อยนะคะ
#อยากกินต้องทำเอง
#Kitchenpui