หลากหลายคำถามที่เกิดขึ้นในใจจึงทำให้ไม่กล้าเริ่มสักทีใช่ไหมล่ะคะซึ่งจริงๆ แล้วหากคุณอยากเปิดร้านกาแฟ คุณคงรู้แล้วว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างใช้เงินทุนเท่าไรมีค่าใช้จ่ายเท่าไรและทำเลที่ไหนเพียงแต่คุณยังไม่มั่นใจว่าธุรกิจร้านกาแฟที่กำลังจะทำนี้ เป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่และจะประสบความสำเร็จขนาดไหน
สำหรับธุรกิจร้านกาแฟ เปิดทีหลังไม่ใช่ปัญหาหรอกค่ะถึงแม้จะมีคู่แข่งเยอะแล้วเพราะหากเราสามารถสร้างความโดดเด่นความแตกต่างให้ร้านของเราได้ก็ย่อมมีโอกาสที่ธุรกิจจะเติบโตได้ไม่ยาก ซึ่งสิ่งที่สำคัญนอกจากการสร้างความโดดเด่น และความแตกต่างแล้วนั้น ก็คือ “การสร้างแบรนด์” ว่าควรทำอย่างไรลูกถ้าถึงจะจดจำแบรนด์เราได้ พูดถึงเราในทางที่ดีได้มีการบอกต่อมีการอุดหนุนอย่างต่อเนื่องได้ฉะนั้นวันนี้ ทางเราจึงมีเทคนิคเล็กๆน้อยๆ ให้คุณสามารถนำไปใช้ในการสร้างแบรนด์ของร้านกาแฟคุณได้มาฝากกันค่ะ
เคล็ดลับในการสร้างแบรนด์ ฉบับร้านกาแฟ!
1. ชื่อร้านต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการจำ
หากคุณเริ่มต้นร้านกาแฟด้วยชื่อที่ยาวหรือคำที่ยากจะออกเสียงแล้ว ก็สรุปได้เลยว่าธุรกิจอาจไปได้ไม่ค่อยสวยนัก ซึ่งสิ่งนี้ไม่ควรมองข้ามไปได้ สำหรับการตั้งชื่อร้านให้เป็นที่จดจำได้ง่าย การใช้ตัวอักษรให้เหมะสม สีที่บ่งบอกความเป็นตัวตน และสัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนของร้าน คุณต้องคิดให้รอบคอบก่อนจะตั้งชื่อที่เป็นทางการแล้ว ไม่เช่นนั้นกลุ่มลูกค้าของร้านคุณอาจเกิดความสับสน และไม่เข้าใจได้ เพราะฉะนั้นชื่อร้านที่ดี ต้องกระชับ เข้าใจง่าย จำง่าย บ่งบอกถึงตัวตนของร้านและกลุ่มลูกค้า
2. ทำความเข้าใจลูกค้าอยู่เสมอ
ก่อนจะเปิดร้านกาแฟคุณต้องทราบแล้วว่ากลุ่มลูกค้าที่คุณจะขายคือใคร ซึ่งการกำหนดกลุ่มลูกค้าให้ชัดจะช่วยให้การทำธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จเร็วขึ้น ซึ่งการรู้จักลูกค้าในที่นี้ ก็ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งร้านของคุณด้วย หากร้านของคุณตั้งอยู่ในย่านมหาวิทยาลัย กลุ่มลูกค้าก็คือกลุ่มนักศึกษา เพราะฉะนั้นการตกแต่งร้าน ราคา เมนู ต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ให้เหล่านักศึกษาสามารถที่จะเข้ามาทานกาแฟร้านคุณได้บ่อยๆ และทางที่ดี อาจมีให้ลูกค้าเขียนคำแนะนำหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร้าน รสชาติ เมนู เพื่อที่คุณจะได้นำไปพัฒนาและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
3. บริการที่ดี มีแต่ความประทับใจ
เจ้าของกิจการก็คือแบรนด์ๆ หนึ่งเหมือนกัน ซึ่งการเรียกแขก ยิ้ม สบตา ทักทาย มีการเอาใจใส่ รู้จักสังเกต ดูแลลูกค้า จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณเฟรนด์ลี่และเข้าถึงง่าย เพราะลูกค้าจะรู้สึกว่าเขาเป็นคนพิเศษ และประทับใจในการบริการลักษณะนี้มาก ซึ่งบางครั้งคุณก็สามารถสื่อสารหรือสนทนากับลูกค้าได้นะคะ แต่ก็ต้องสังเกตลูกค้าก่อนว่าสะดวกสนทนากับเราไหม ไม่เช่นนั้นอาจสร้างความอึดอัดให้กับลูกค้าได้ และการสนทนานั้นก็ต้องดูขอบเขตของคำถามให้ดีด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการก้าวก่ายลูกค้ามากเกินไป ซึ่งหากคุณเป็นคนที่รู้จังหวะ กาลเทศะ ใช้คำพูดเป็น สุภาพ อ่อนน้อม รับรองว่าลูกค้าติดใจแน่นอนค่ะ รวมถึงการให้บริการในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น ที่นั่งในร้าน, Wifi, นิตยสาร หนังสือพิมพ์ บริการชาร์จมือถือ ก็ล้วนแต่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้เช่นกัน
4. ไม่มองข้ามเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบ
คุณภาพของวัตถุดิบถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ไม่ต่างจากการบริการเลยก็ว่าได้หรือเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่าคุณภาพของวัตถุดิบคือหัวใจของร้าน คือส่วนที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจว่าจะมาเป็นลูกค้าประจำของร้านเราหรือไม่ เพราะฉะนั้น ตั้งแต่ขั้นตอนของการคัดเลือกเมล็ดกาแฟ คุณก็ต้องใส่ใจในรายละเอียดของทั้งรสชาติ กลิ่น และสี ส่วนในขั้นตอนของการชงและส่วนผสม คุณก็ต้องคัดเลือกแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน มีสูตรที่ชัดเจน เพื่อให้รสชาติออกมาคงที่และเหมือนเดิมในทุกๆแก้วที่ชงมากที่สุด แต่สำหรับในกรณีที่ลูกค้าต้องการสูตรที่แตกต่างออกไป เช่น หวานน้อย ไม่ใส่น้ำเชื่อม หรือเพิ่มช็อต คุณก็ต้องจำสูตรพิเศษของลูกค้าแต่ละคนให้ได้ เพราะเป็นการบ่งบอกถึงความใส่ใจ และให้ความสำคัญกับลูกค้าเสมอ
5. ตกแต่งร้านแบบมีดีไซน์ ให้น่าจดจำ
การตกแต่งร้านให้สวย ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมากนัก เพียงแต่คุณต้องมีไอเดีย และคอนเซ็ปต์สำหรับร้านของคุณให้ชัดเจน ว่าต้องการรูปแบบไหน สไตล์เป็นอย่างไร โดยคุณต้องคำนึงถึงทำเล และกลุ่มลูกค้าของร้านด้วย เช่น หากคุณเปิดร้านแถวมหาวิทยาลัย ร้านของคุณก็ควรจะตกแต่งไปในทางน่ารักสดใส ดูสบายตา แต่หากเปิดแถวออฟฟิศ แหล่งคนทำงาน ร้านของคุณก็อาจจะตกแต่งสไตล์ลอฟท์ หรือคลาสสิค ให้ดูดีแบบมีความน่าเชื่อถือ แต่ไม่ถึงกับหรูหรา เพราะหากเน้นความหรูหรา ลูกค้าอาจจะคิดว่าร้านของคุณจำหน่ายกาแฟราคาสูงได้ นอกจากนี้ ก็ควรทำป้ายบอกราคาเครื่องดื่มให้ชัดเจน อาจจะมีตั้งป้ายไว้หน้าร้านเลยก็ดีค่ะ ส่วนการตกแต่งร้านในส่วนของเคาท์เตอร์ โต๊ะ เก้าอี้ และของประดับตกแต่งตามจุดต่างๆ ก็ควรเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เน้นไอเดีย ความครีเอท แล้วร้านของคุณก็จะโดดเด่น สะดุดตาแน่นอนค่ะ
6. ทำเลดี ทำเลโดน
ไม่พูดถึงคงไม่ได้ สำหรับทำเลที่ตั้งของร้านกาแฟ ซึ่งสิ่งสำคัญของทำเลที่ตั้งเลยก็คือ จำนวนลูกค้าในทำเลนั้นๆมีปริมาณเยอะมากแค่ไหน โดยคุณต้องทราบแล้วนะคะ ว่าลูกค้าของร้านกาแฟคุณเป็นลูกค้ากลุ่มไหน และนอกจากจำนวนลูกค้าแล้ว จำนวนคู่แข่ง ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันค่ะ เพราะหากคุณได้ทำเลร้านดี แต่มีคู่แข่งค่อนข้างเยอะ หรือหากไม่เยอะ แต่ร้านคู่แข่งเปิดร้านมาก่อนและเปิดมานาน ก็อาจต้องมองหาทำเลใหม่ค่ะ เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะซื้อหรือเช่าที่ใดๆก็ตามแต่ คุณต้องหาข้อมูล สำรวจ และสอบถามผู้รู้เกี่ยวกับทำเลนั้นๆโดยละเอียดค่ะ ถ้าเป็นไปได้ ทำเลที่ดีและโดนใจลูกค้า คือทำเลที่ลูกค้าจะมองเห็นร้านเราได้ง่าย เดินทางมาง่าย และสามารถจอดรถได้สะดวก
7. สร้างจุดขายด้วยไอเดีย
การสร้างจุดขาย คือการสร้างความโดดเด่น เอกลักษณ์ หรือตัวตนให้กับกาแฟของร้านคุณ ไม่ว่าจะเป็นการคิดสูตรเอง การใช้ส่วนผสมบางอย่างที่ร้านทั่วไปไม่ใช้ การตั้งชื่อเมนูแปลกๆน่าดึงดูด การสร้างสรรค์หน้าตาของกาแฟและเครื่องดื่มให้สะดุดตา หรือแม้แต่การสร้างเรื่องราวให้กาแฟหรือเครื่องดื่มอื่นๆดูมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น อย่างเช่น การเล่าประวัติ หรือที่มาของวัตถุดิบต่างๆ กรรมวิธีการชง หรือแม้แต่ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ จากเครื่องดื่มที่ลูกค้าสั่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นไอเดีย ที่จะช่วยสร้างจุดขายให้ร้านของคุณ เพื่อให้ลูกค้าพอใจ จดจำ และอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง
8. การตลาด ขาดไม่ได้
ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไร การตลาดถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยเพราะการตลาดมีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะทำให้ลูกค้ารู้จักร้านและจดจำแบรนด์ของเรา ธุรกิจร้านกาแฟก็เช่นกัน ที่สามารถนำการตลาดเข้ามาช่วยได้เป็นอย่างดี โดยก่อนที่คุณจะเปิดร้าน คุณก็สามารถใช้กลยุทธ์ทางการตลาดได้แล้ว เช่น ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย สำหรับโปรโมชั่นลด 20% ในวันที่เปิดร้าน หรือให้ระยะเวลาตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน หรือโปรโมชั่นซื้อ 1 แก้ว แถม 1 แก้วในช่วงเพิ่งเปิดร้านก็ได้ค่ะ และหลังจากเปิดร้านมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว คุณก็อาจจะทำโปรโมชั่นตามวันหยุดและเทศกาลต่างๆ หรือหากลูกค้ามีการเช็คอิน และแชร์โพสต์ของร้าน คุณก็สามารถเสนอรางวัลสำหรับการร่วมกิจกรรมนี้ได้ด้วย ซึ่งการตลาด นอกจากจะเป็นการช่วยกระตุ้นยอดขายของร้านแล้ว ยังทำให้ร้านและแบรนด์ของเรามีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่คุณต้องตระหนักอยู่เสมอว่า ควรทำการตลาดอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่หลอกลวงลูกค้า ควรแสดงถึงความจริงใจและทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า
9. เมนูเสริม นอกเหนือจากกาแฟ
เมนูเสริมจะทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับการบริการที่ครบถ้วนและช่วยเพิ่มยอดขายได้ โดยหลักๆจะเป็นพวกกาแฟ หรือเครื่องดื่มอยู่แล้วส่วนเมนูเสริมจะเป็นพวกแซนด์วิช ขนมปัง คุกกี้ เค้ก ของทานเล่น เป็นต้น แต่หากคุณมีความสามารถในการทำขนมหรือของหวานด้วย ก็จะต่อยอดได้ง่ายเลย โดยการเพิ่มเมนูให้ลูกค้าได้เลือกรับประทานได้อย่างหลากหลาย เช่น วาฟเฟิล ฮันนี่โทสต์ แพนเค้ก หรือทำเค้กในแบบฉบับของคุณเองก็ได้เช่นกัน และหากคุณมีเมนูเด็ด หรือครีเอทขึ้นมาใหม่ให้เป็นซิกเนเจอร์ของร้านได้โดยเฉพาะ ก็จะยิ่งเป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้ร้านของคุณได้เป็นอย่างดีเลยด้วย
10. พัฒนาลูกเล่นใหม่ๆอยู่เสมอ
แม้กาแฟจะต้องมีสูตรที่ชัดเจนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถพลิกแพลงหรือเปลี่ยนแปลงสูตรได้เลย ซึ่งการมีสูตรที่ชัดเจนตายตัวนั้นถูกต้องแล้วแต่หากคุณสามารถต่อยอดจากสูตรเหล่านั้น มาพัฒนาเป็นสูตรใหม่ๆ เมนูกาแฟใหม่ๆได้ ก็จะทำให้ร้านของคุณมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น บวกกับการทำการตลาดให้น่าสนใจ เพื่อเป็นการส่งต่อบอกข่าวให้ลูกค้ารับรู้ ว่าร้านของคุณมีอะไรมานำเสนอ และไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน นอกจากนี้ กรรมวิธี วัตถุดิบ นวัตกรรมต่างๆ คุณต้องศึกษาหาความรู้จากสิ่งเหล่านี้อยู่ตลอด เพื่อจะได้นำเสนอไอเดีย ความแปลกใหม่ จากเมนูกาแฟและเครื่องดื่ม ให้ลูกค้าได้เห็น ติดตาม และมีความสนใจร้านของคุณอยู่เสมอ
ตัวอย่างแฟรนไชส์กาแฟ สำหรับท่านที่ต้องการใช้แบรนด์ที่มีอยู่ในตลาดบ้านเรา เป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปอยู่แล้ว ไม่ต้องสร้างแบรนด์ใหม่ คลิก -> รวมแฟรนไชส์ร้านกาแฟ
One comment
Pingback: เคล็ด(ไม่ลับ) ธุรกิจร้านกาแฟ – Dreamy