สยามอาชีพ
ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ตามตรอก ตามซอก ตามซอย ริมถนน หรือแม้กระทั่งตามหมู่บ้าน ชุมชน ตึกออฟฟิศต่าง ๆ ก็คงมองเห็นพ่อค้า แม่ค้าจอดรถเข็นเรียงราย และร้องเรียกลูกค้าอยู่ไม่ไกล บางร้านคนต่อคิวแถวยาวไกลสุดลูกหูลูกตา แต่ก็ยังไม่วายเห็นกลุ่มคนที่เข้าแถวตั้งหน้าตั้งตารอ เพื่ออุดหนุนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเหล่านั้น หนึ่งในนั้นคงมีร้านรถเข็น ที่มีหม้อต้มน้ำ กลิ่นควันหอม ๆ ผสมกับกลิ่นชา กาแฟลอยมาเป็นแน่ กลิ่นหอมที่เป็นสัญลักษณ์แทนการร้องเรียกลูกค้า เชิญชวนกลุ่มลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ คงหนีไม่พ้น “ ร้านกาแฟโบราณ” นั่นเอง
ในปัจจุบันร้านค้าที่ขายชา กาแฟโบราณนั้น ไม่ได้จำกัดรูปแบบที่ขายเพียงแต่การขายกาแฟโบราณ เพราะในปัจจุบันนั้น ได้มีการเพิ่มกลุ่มลูกค้าทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ วัยหนุ่มสาว ชาวออฟฟิศ รวมถึงรูปแบบเมนูที่สรรค์สร้างให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมมีให้เลือกในรูปแบบการชงต่าง ๆ ออกไป ไม่ว่าจะเป็น ร้อน เย็น ปั่น หรือหยิบเมนูต่าง ๆ ภายในร้าน มาผสมกันเป็นเมนูใหม่ให้มีความเข้ากัน
เพิ่มรสหวาน มัน ตามแต่สไตล์ของลูกค้า บางร้านก็ใช้สูตรและเมนูคล้ายแบรนด์ดัง แต่เพิ่มเอกลักษณ์ของร้านตนเองให้มีความลงตัวมากขึ้น มาดูกันสิคะว่า เคล็ดลับอะไรที่ทำให้อาชีพพ่อค้าแม่ค้ามือชง ทำรายได้ดีและมีร้านเพิ่มขึ้นมากมายในปัจจุบัน
1. ทำเล
ไม่ว่าจะเป็นการค้าขายรูปแบบใด ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร หรือร้านค้าแผงลอย รถเข็น ทำเลที่ตั้งถือว่ามีความสำคัญมากเป็นอันดับต้นของการขาย เพราะหากทำเลที่ตั้งเป็นจุดน่าสนใจ อยู่ในแหล่งชุมชน ตามสถานที่ ตามอาคารก็จะเป็นแหล่งรายได้ชั้นเยี่ยมของเหล่าพ่อค้าแม่ค้า โดยเฉพาะสำหรับร้านน้ำชา กาแฟด้วยแล้วนั้น การได้ทำเลที่ตั้งตามอาคาร ออฟฟิศ โรงเรียน ก็เป็นแหล่งยุทธศาสตร์ที่ดีลำดับต้น ๆ เพราะอย่างน้อยเวลาในการขายก็สามารถกะเกณฑ์เวลาที่แน่นอนได้
การตั้งอยู่ในทำเลที่ดีนับได้ว่าเป็นจุดหมาย เป็นเป้าหมายสำคัญในการค้าขาย บางร้านถึงแม้ว่าจะมีความอร่อย โดนใจลูกค้า แต่หากว่าตั้งอยู่ไกล ไม่ติดถนนใหญ่และไกลจากออฟฟิศ ก็น้อยคนนักที่จะเดินเพื่อไปรอคิว แต่หากร้านที่มีทำเลใกล้ออฟฟิศ อาจทำรายได้ได้ดีกว่าร้านอื่น ๆ เพราะชาวออฟฟิศมีเวลาแน่นอน เช้า สาย เที่ยง บ่าย เย็น ก็สามารถขายได้ยันเลิกงาน นับว่าเป็นทำเลทองเลยก็ว่าได้
2. ราคา
เศรษฐกิจในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า แม่ค้า หรือชาวทำงานทุกคนต่างก็อาจจะฝืดเคืองไปตาม ๆ กัน การลดต้นทุน ลดราคา จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้เพิ่มยอดขายและรักษายอดขายไว้ในระดับเดิม การตั้งราคาให้มีความเหมาะสมกับปริมาณต้นทุนก็เป็นสิ่งจำเป็น พ่อค้าแม่ค้าอยู่ได้ ลูกค้าก็ซื้อได้เป็นสิ่งสำคัญที่ควรตระหนัก
การตั้งราคาของกาแฟ ชา โดยทั่วไป จึงให้ราคาไว้ที่ 25 – 30 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมและหาซื้อได้ง่าย หากมีการเพิ่มส่วนผสมบางชนิด หรือเมนูบางชนิดก็อาจจะมีการปรับขึ้น – ลงตามแต่เหมาะสมตามราคาของวัตถุดิบ
3. ความอร่อย
ไม่ว่าจะทำร้านค้าของกิน ของทานเล่น หรือแม้แต่ชา กาแฟ ก็คงหนีไม่พ้นความอร่อยในแต่ละเมนูที่สรรค์สร้าง และเลือกในแต่ละครั้ง ความอร่อยก็เป็นสิ่งสำคัญที่เป็นเคล็ดลับดึงดูด เป็นแรงจูงใจในการซื้อครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเก่า ลูกค้าใหม่ก็มีสิ่งนี้เป็นจุดขาย ถึงแม้ว่าจะมีร้านค้าชนิดเดียวกันถึง 10 ร้านในละแวกเดียวกัน
แต่จะเห็นได้ว่าบางร้านคิวยาวมาก แต่ก็ยังมีลูกค้าหลายคนตั้งหน้าตั้งตารอ บางร้านก็มีลูกค้าแต่อาจจะน้อยไปบ้างตามสัดส่วนการตลาด แต่อย่างไรก็ตามรสมือในการทำก็ยังคงเป็นตัวเลือกหนึ่งในการตัดสินใจ และการบอกต่อของกลุ่มลูกค้า หากมีความลงตัวของทั้งเรื่องราคาและความอร่อย ลูกค้าเก่า ลูกค้าใหม่คงจะไม่หนีไปไหนเป็นแน่
4. โปรโมชั่น
ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าแบบมีหน้าร้าน จนกระทั่งร้านค้าแผงลอย การจัดทำโปรโมชั่น เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นสะสมครบ 10 ถุง ฟรี 1 ถุง หรือลดราคาในการซื้อครั้งต่อไป, การใช้บัตรสะสมแต้ม, การให้บัตรลดราคา, บัตรลดในวันเกิด บางร้านก็หยิบฉลากของขวัญให้สิทธิ์ทานฟรีในแต่ละโอกาส หรือบางร้านจะใช้เป็นรางวัลเลขท้ายตามแบบรัฐบาล ในการใช้เป็นโปรโมชั่นส่วนลด การลด แลก แจก แถม
เป็นกลยุทธ์และเคล็ดลับที่ร้านค้าต่าง ๆ ใช้เป็นรูปแบบในการนำเสนอ และเพิ่มฐานกลุ่มลูกค้า หากร้านไหนไม่มีโปรโมชั่น อาจจะทำให้กลุ่มลูกค้าใหม่ลดน้อยลง การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ก็เป็นช่องทางหนึ่งในการขยายกลุ่มลูกค้าให้มีเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 4 เคล็ดลับเด็ด ๆ ที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้านักชงทั้งหลายต่างงัดเคล็ดลับ วิธีการนำเสนอ พร้อมทั้งโปรโมชั่นโดนใจทั้งลูกค้าเก่า ลูกค้าใหม่ ทำให้อยากต่อแถวยืนรอน้ำชา กาแฟ และน้ำชงในรูปแบบต่าง ๆ อ่านจบแล้ว ก็ลองไปยืนต่อแถวสูดกลิ่นหอม ๆ รับน้ำชา กาแฟสักแก้ว ก่อนทำงาน หลังพักกลางวันกันดีกว่าค่ะ
