อัพเดทล่าสุด
หน้าแรก / อาชีพค้าขาย / ขายอะไรดี? เทรนด์สินค้าขายดี ในโลกออนไลน์ ปี 2021 มีอะไรบ้าง มาดูกัน!

ขายอะไรดี? เทรนด์สินค้าขายดี ในโลกออนไลน์ ปี 2021 มีอะไรบ้าง มาดูกัน!

ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของคนเราเป็นอย่างมากและอาจเปรียบได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ที่สำคัญในการดำรงชีวิตเพราะในปัจจุบัน การติดตามข้อมูลข่าวสารการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การระวังภัยเตือนภัยการติดต่อสื่อสารกับบุคคลต่างๆ การทำงาน การเรียน เศรษฐกิจ สังคม จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตทั้งนั้นอาจกล่าวได้ว่าใน 1 วัน เราอาจจะอยู่ในโลกออนไลน์ มากกว่า 1 ใน 4 ของเวลาทั้งหมดในแต่ละวันด้วยซ้ำไป

เมื่อโลกออนไลน์ก้าวเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นจึงส่งผลให้การค้าขายและแนวโน้มทางเศรษฐกิจเติบโตมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นพ่อค้าแม่ค้าหลายคนเริ่มเกิดแนวคิดและช่องทางใหม่ในการประกอบธุรกิจ การซื้อขายจนกลายเป็นการซื้อขายในรูปแบบใหม่ นั่นก็คือ ขายของออนไลน์  ซึ่งปัจจุบันนี้มีสินค้ามากมายหรือเกือบจะทุกสินค้าถูกขายอยู่บนโลกออนไลน์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าเครื่องสำอาง โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ของใช้ต่างๆ อาหารคาว-หวาน และอื่นๆ อีกมากมาย

พ่อค้าแม่ค้าหน้าเก่าที่เคยขายสินค้าแบบเดิมในร้านค้า ห้างสรรพสินค้าหรือหน้าร้านของตนเองก็หันมาใช้ช่องทางดังกล่าวในการขยายฐานลูกค้าและต่อยอดธุรกิจสินค้าของตนเองเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่หลายท่านต่างก็ให้ความสนใจในการขายของออนไลน์เพิ่มมากขึ้นด้วยเอาล่ะ เราลองมาดูกันดีกว่าว่าสินค้าอะไรที่คนส่วนมากนิยมขายกัน และยังขายได้ดีด้วย

ขายของออนไลน์ อะไรควรขาย และขายดีด้วย

1. อาหารเสริม

เรียกได้ว่าเป็นการขายของออนไลน์ยอดฮิตสำหรับ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เลย เพราะอาหารเสริมถือว่าเป็นสินค้าที่ขายง่าย กำไรดีและมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายแต่ในทางกลับกัน อาหารเสริมก็มีหลายแบบแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นยาวิตามิน ยาสมุนไพร หรือยาเฉพาะทางต่างๆ ควรศึกษาข้อมูลและรายละเอียดให้ดีว่าอาหารเสริมให้ประโยชน์ต่อลูกค้าจริงๆ อย่างไรก็ตามคุณควรทดลองรับประทานด้วยตัวเอง เพื่อให้รู้ผลที่ได้และสามารถบอกถึงประโยชน์ของอาหารเสริมนั้นๆ แก่ลูกค้าได้อย่างดี ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายของคุณดีตามไปด้วยเพราะได้รับความน่าเชื่อถือ

2. เสื้อผ้า / รองเท้า / กระเป๋า / เครื่องประดับ

สินค้าจำพวกเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับถือว่าเป็นกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมมาเป็นเวลานาน ทั้งการขายแบบมีหน้าร้าน รวมถึงโลกออนไลน์ก็เช่นกัน เหล่าพ่อค้าแม่ค้า ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ หันมาลงทุนกับธุรกิจกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น ในช่องทางออนไลน์ เพราะกลุ่มสินค้าเหล่านี้ มีกลุ่มลูกค้าที่ค่อนข้างใหญ่ ซื้อขายง่าย ลูกค้าเข้าถึงง่าย และยิ่งมีการจัดส่งที่รวดเร็วด้วยแล้ว ก็จะยิ่งได้รับความไว้วางใจ ความเชื่อมั่นจากลูกค้า ส่งผลให้มียอดขายเพิ่มเข้ามาตลอด

การผนวกเข้ากับโลกออนไลน์ของกลุ่มสินค้าจำพวกเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ ทำให้เจ้าของแบรนด์หน้าใหม่ ที่ออกแบบตัดเย็บเอง ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งความหลากหลายของสินค้าก็ยังเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน บวกกับสไตล์ และเอกลักษณ์ของแบรนด์ ที่เป็นทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นจุดขายของกลุ่มธุรกิจนี้เลยทีเดียว

3. เครื่องสำอาง / ครีมบำรุงผิว

หากมีการนับจำนวนสินค้าและเจ้าของแบรนด์ในโลกออนไลน์ จะเห็นเลยว่าธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว มีจำนวนมากเป็นอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ อีกทั้งกลุ่มลูกค้าก็มีมากเช่นเดียวกัน ส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้เติบโตและมีจำนวนมาก ก็คงเป็นเพราะกลุ่มลูกค้าผู้หญิงที่มักจะชอบสั่งของออนไลน์มากกว่าการออกไปซื้อ รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รูปแบบใหม่ๆ กลิ่น สี ส่วนผสม ที่หลากหลาย น่าสนใจ ทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากลอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีรีวิวจากดารา หรือพวกคนดังทางโลกออนไลน์ ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือในตัวสินค้าพวกเครื่องสำอาง และครีมบำรุงผิวมากขึ้น

สำหรับใครที่อยากเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้บอกเลยว่า ต้องวางแผนให้รอบคอบมากๆ ว่าจะทำอะไร กลุ่มเป้าหมายอะไร และถึงจะเป็นกลุ่มเป้าหมายผู้หญิง ก็ต้องเจาะลึกลงไปเลยว่า อายุ การศึกษา ความสนใจ แบบไหน ที่สำคัญคือสินค้าที่คุณจะขาย เพราะตอนนี้กลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิวมีเยอะมาก คุณต้องดึงความสนใจให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าของคุณให้ได้ และใช้การตลาดเข้าช่วย

4. งานไอเดีย / งานแฮนด์เมด / สินค้าพื้นเมือง

กลุ่มธุรกิจงานไอเดียสินค้าแฮนด์เมด สินค้าพื้นเมืองสินค้า OTOP ต่างก็ใช้โลกออนไลน์ในการประชาสัมพันธ์สินค้าขายสินค้าเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่ากลุ่มธุรกิจดังกล่าวจะไม่แพร่หลายในปัจจุบันมากเท่าไหร่ หากเทียบกับกลุ่มธุรกิจในรูปแบบอื่นๆ แต่กลุ่มสินค้าเหล่านี้ จะเป็นกลุ่มสินค้าที่สามารถสร้างมูลค่าของสินค้าได้มากขึ้น และเป็นการเปิดตลาดและฐานลูกค้าในต่างประเทศมากขึ้นด้วย เพราะสินค้าเหล่านี้มักเป็นสินค้าที่สะดุดตานักท่องเที่ยว นักสะสม ดังนั้น การนำสินค้ามาต่อยอดและประยุกต์ให้มีความทันสมัยก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าของกลุ่มธุรกิจนี้ได้ และหากใครที่มีฝีมือ หรือมั่นใจในงานไอเดียของตัวเองแล้วล่ะก็ ต้องลงสนามในตลาดออนไลน์แล้วล่ะ เพราะนอกจากจะได้ลูกค้าคนไทยแล้ว ยังมีโอกาสมากๆที่จะได้ลูกค้าชาวต่างชาติด้วย

5. สินค้าไอที อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

เราจะเห็นเลยว่าตามเว็บขายของออนไลน์หรือเว็บช้อปปิ้งออนไลน์ จะมีสินค้าไอทีและพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขายกันอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต กล้อง และอื่นๆ ที่ลูกค้าจะสามารถหาซื้อได้ง่ายมาก โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ร้านอีกแล้ว เพียงแค่เข้าเว็บไซต์ และกดสั่งซื้อ ลูกค้าก็จะได้สินค้าเหล่านี้แล้ว ซึ่งหากคุณกำลังสนใจที่จะขายสินค้ากลุ่มนี้ คุณสามารถตัดเงินลงทุนหน้าร้านได้เลย เพราะตอนนี้ช่องทางออนไลน์เปิดกว้าง และเปิดโอกาสให้คุณอย่างมาก บอกได้ว่า คุ้มค่าที่จะลงทุน!แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้อจำกัดของสินค้าไอที และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั้น ก็มีอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือเรื่องของสินค้าค้างสต๊อก สินค้าตกรุ่น ซึ่งเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเทคโนโลยีมาไวไปไว ฉะนั้น คุณตามเทรนด์เร็ว ทำตลาดเร็ว ขายเร็ว และพยายามจัดโปรโมชั่น เพื่อเคลียร์ของในสต๊อกให้ทันด้วย

6. ของใช้ในบ้าน

อีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันบนโลกออนไลน์นั่นก็คือ ของใช้ในบ้าน อุปกรณ์ต่างๆภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาด อุปกรณ์ทำอาหาร และพวกอุปกรณ์เครื่องมือช่าง ซึ่งเหมือนกับสินค้าไอที ที่ลูกค้าจะสามารถหาซื้อได้ง่าย โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ร้าน  เพราะตอนนี้ อุปกรณ์และของใช้ในบ้าน มีจำหน่ายตามเว็บไซต์ต่างๆมากมาย อีกทั้งยังมีบริการจัดส่งที่รวดเร็ว และมีคุณภาพด้วย

สำหรับใครที่ต้องการจำหน่ายสินค้ากลุ่มนี้บนโลกออนไลน์ คุณจะต้องให้ความสำคัญกับประโยชน์ของสินค้า การเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งาน ความสวยงามน่าใช้ และราคาที่เหมาะสม รับรองว่า ร้านออนไลน์ของคุณ ยอดพุ่งกระฉูด!

7. เสื้อผ้า / รองเท้า / กระเป๋า มือสอง

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่สมัยสินค้ามือสองก็ยังเป็นที่ต้องการของลูกค้าเสมอซึ่งในช่วงแรกที่คุณเริ่มขายของออนไลน์ คุณสามารถนำเสื้อเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าของตัวเอง มาขายก่อนได้ เพราะเป็นการลดต้นทุน ศึกษาตลาด ศึกษาลูกค้า และแนวทางการขายไปในตัวด้วย จากนั้น เมื่อธุรกิจเริ่มไปได้สวย จึงค่อยขยับขยาย จากการขายเสื้อผ้าของตัวเอง เป็นการไปรับจากแหล่งเสื้อผ้ามือสอง เพื่อให้สินค้ามีความหลากหลายมากขึ้น สำหรับเรื่องของราคา สินค้ามือสองจะเน้นที่การขายถูก และหากคุณขายได้ปริมาณที่เยอะ คุณก็จะได้กำไรมากอยู่ทีเดียว ฉะนั้น ต้องพิจารณาและวางแผน ก่อนจะลงทุนด้วยนะคะ

8. ของเก่า ของหายาก

โดยส่วนมากคนที่จำหน่ายสินค้าพวกของเก่าของสะสมของโบราณ ของหายาก จะมีหน้าร้านเป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่ปัจจุบัน ที่ยุคการขายของออนไลน์กำลังได้รับความนิยม คนเหล่านี้ก็เริ่มปรับตัว โดยการขายสินค้ากลุ่มนี้บนโลกออนไลน์มากขึ้น เพราะเป็นการเพิ่มช่องทางการขาย และทำให้ลูกค้าที่ไม่รู้จักเรา หรือเคยเห็นเรา ก็สามารถเจอร้านของเราได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ส่วนใครที่กำลังสนใจจะจำหน่ายพวกของเก่า ของหายาก หากคุณไม่ต้องการมีหน้าร้าน โดยจะขายผ่านร้านค้าออนไลน์อย่างเดียว ก็สามารถทำได้ แต่อาจจะต้องให้มีการนัดรับดูของกับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในสินค้าของคุณ เพราะพวกของเก่า ของหายาก มักจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง และการจะขายของเหล่านี้ได้นั้น ก็ต้องเป็นลูกค้าที่ชอบหรือสนใจจริงๆ

9. ของเล่นเด็ก ตุ๊กตา

ทั้งของเล่นเด็ก ตุ๊กตา หรือสินค้าแม่และเด็ก ต่างก็เป็นสินค้าที่ฮอตฮิตเช่นกัน บนโลกออนไลน์ เพราะเหล่าคุณแม่บ้าน ที่ต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกน้อย คงจะไม่มีเวลาออกไปซื้อของเท่าไรนัก เลยได้แต่ช้อปปิ้งผ่านร้านค้าออนไลน์ ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้ ก็มีให้คุณแม่ทั้งหลายเลือกซื้อได้มากมายเสียด้วย เนื่องจากเหล่าพ่อค้าแม่ค้า มักจะนำสินค้ากลุ่มนี้มาขาย เพราะขายง่าย ลูกค้าเยอะ สินค้าไม่มีวันหมดอายุ และไม่ตามกระแสเทคโนโลยีมากนัก จึงไม่ต้องห่วงเรื่องของสินค้าค้างสต๊อก สำหรับพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ ที่กำลังเล็งสินค้ากลุ่มนี้อยู่ ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจนะคะ

10. อุปกรณ์เสริมมือถือ

อุปกรณ์เสริมสำหรับโทรศัพท์มือถือจะเห็นได้ว่ามียอดขายเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันมีการจำหน่ายอยู่ตลอด ไม่ว่าจะแบรนด์ใดๆ อีกทั้งการดีไซน์ การพัฒนาในเรื่องของรูปลักษณ์และฟังก์ชันต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันให้อุปกรณ์เสริมนั้น มียอดขายที่ดีตามไปด้วย โดยเฉพาะเคสมือถือ สายชาร์จ ฟิล์มติดหน้าจอ และแบตสำรอง ที่มีการขายทั้งแบบหน้าร้านและโลกออนไลน์ ลูกค้าจึงสามารถหาซื้อได้ง่ายมาก ส่วนราคา ก็มีตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพง แล้วแต่ยี่ห้อและวัสดุที่ใช้ของสินค้า ดังนั้น ใครที่จะจับกลุ่มอุปกรณ์เสริมมือถือ ก็อาจต้องศึกษาเรื่องแหล่งซื้อของ เพื่อให้ได้ราคาถูก และคู่แข่งที่มีมากมายด้วย

อย่างไรก็ตาม เทรนด์การขายของออนไลน์ สำหรับปีนี้ ยังถือว่าเติบโตไปได้ดีอยู่ค่ะ และดีมากขึ้นด้วย ผู้เขียนเชื่อว่าไม่กี่ปีข้างหน้า ตลาดออนไลน์จะขยายวงกว้างมากขึ้น ทั้งในเรื่องของสินค้า บริการ ที่หลากหลาย กลุ่มลูกค้าที่เพิ่มขึ้น หากสนใจที่จะขายออนไลน์ ก็เริ่มได้เลยนะคะ ไม่ต้องรีรออะไรแล้ว แต่ถ้าใครที่ยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร หรือบางท่านอาจจะเริ่มต้นมาในระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่ค่อยมีไอเดียหรือแนวทางในการขายมากนัก เพราะฉะนั้นมาติดตามกันต่อ จากบทความนี้เลยค่ะ

ขายของออนไลน์ เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง!

การขายของออนไลน์ในสมัยนี้ ต้องบอกว่าเป็นช่องทางการค้าขายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก รวมถึงเป็นช่องทางการสร้างรายได้ชั้นดีอีกด้วยเพราะการขายของออนไลน์ คุณไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านไม่จำเป็นต้องมีพนักงาน ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลสินค้าของคุณได้จากทุกที่ดูแลจัดการง่าย ซื้อ-ขายสะดวก ที่สำคัญคือลดต้นทุนในหลายๆส่วนได้มากทีเดียว รู้อย่างนี้แล้ว ก็ลองมาขายของออนไลน์ดีไหมคะ ซึ่งหากมีการเริ่มต้นที่ดีจะไม่ขายดีได้อย่างไรใช่ไหมล่ะคะ

สำหรับขั้นตอนการขายของออนไลน์ จริงๆก็ไม่ยากเลยค่ะ แค่ต้องเตรียมตัวและศึกษาข้อมูลให้พร้อมยิ่งเป็นสินค้าที่ถนัด ชอบหรือสนใจ ยิ่งดีค่ะ ทำในสิ่งที่ชอบย่อมได้ผลลัพธ์ที่ดีอยู่แล้ว ซึ่งในช่วงแรกอาจจะมีอุปสรรคอยู่บ้างก็อย่าย่อท้อนะคะ ปรับปรุง ปรับตัว แก้ไข พัฒนาไปเรื่อยๆ ความสำเร็จที่คาดหวังก็ต้องมาถึงแน่นอน

5 ขั้นตอนการขายของออนไลน์ ไม่ว่าใครก็ทำได้

  1. รู้จักวางแผน คำนวณต้นทุน

ก่อนอื่นเลย ทุนที่คุณมีอยู่นั้น ต้องดูให้ดีว่าพอสำหรับค่าใช้จ่ายทุกอย่างหรือไม่ เพราะไม่ใช่แค่ทุนในการซื้อของ แต่ยังรวมถึงค่าทำเว็บ ซื้อโฆษณาผ่าน Facebook IG หรือ Google รวมถึงค่าจ้างรีวิวต่างๆ หากคุณเล็งเห็นว่าสินค้าของคุณจำเป็นต้องสร้างความน่าเชื่อถือ เพราะการขายของออนไลน์นั้น คุณไม่สามารถเลี่ยงการทำการตลาดได้เลย ซึ่งคุณต้องทำควบคู่ไปกับการขาย เพื่อให้มียอดขายเพิ่มขึ้น ลูกค้ารู้จักเรามากขึ้น และที่สำคัญ คือทำให้ลูกค้าเกิดการซื้อซ้ำหรือบอกต่อ เพราะฉะนั้นเงินลงทุน ควรจะเผื่อเหลือเผื่อขาด และวางแผนให้ดี

  1. ขายในสิ่งที่คิดว่าทำได้ดี

แน่นอนว่าการเลือกสินค้ามาขาย ส่วนมากก็คงจะเลือกจากความชอบส่วนตัวอยู่แล้ว เพราะหากชอบอะไร ก็มักจะทำได้ดี และใช้ความรู้ที่มีในตัวสินค้าตอบคำถามของลูกค้าได้ แต่บางท่านก็อาจจะเลือกสินค้าที่กำลังอยู่ในกระแสนิยม หรือสินค้านอกสายตา แต่มีไอเดียในการขาย โดยนำสินค้ามาทำให้เกิดมูลค่ากว่าเดิมแล้วค่อยขาย หรือการเป็นตัวแทนจำหน่าย ก็จะยิ่งง่ายและสะดวกทีเดียว อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเลือกขายสินค้าแบบใด สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือความมั่นใจ ต้องตั้งใจว่าสิ่งที่เราขาย มันขายได้ โดยพยายามศึกษาข้อมูล หาวิธีการขาย และหาแหล่งซื้อสินค้าที่มีตัวตน ไว้ใจได้ เช่น  การสั่งซื้อจากเว็บไซต์ขนาดใหญ่ TAOBAO, TMALL, 1688, Gmarket, Alibaba หรือจะไปที่ประตูน้ำ, สำเพ็ง, โบ๊เบ๊ ก็ได้ และส่วนช่วยในการขายคือการบริการและการตลาดที่ดี

  1. ช่องทางที่หลากหลาย ต้องใช้ให้เป็น

การขายของออนไลน์ในปัจจุบัน คุณจะเห็นได้ว่ามีช่องทางที่หลากหลาย ให้คุณได้ขายมากขึ้น ซึ่งแต่ละช่องทาง ก็ล้วนแล้วแต่มีการใช้งานที่แตกต่างกันไป ให้ประโยชน์ต่างกันไป เช่น การสร้างเพจบน Facebook ก็สามารถทำได้ทั้งขาย พูดคุย และทำคอนเทนต์ เพื่อให้ร้านของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นได้, การสร้างเว็บไซต์ เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ รวมถึงเราสามารถจัดการ ตกแต่ง เปลี่ยนแปลงเนื้อหาได้ตลอดเวลา ซึ่งหากคุณเพิ่งเริ่มขาย อาจจะยังไม่ต้องทำเว็บไซต์จริงจังขนาดนั้น แต่คุณสามารถใช้เว็บไซต์สำเร็จรูปก่อนได้ อย่างของ www.lnwshop.com, www.sogoodweb.com, www.makewebeasy.com ซึ่งมีทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้จ่าย, ใช้ Instagram ที่เน้นการถ่ายรูปสินค้า, ใช้ Line@ ที่เน้นการประชาสัมพันธ์ บอกโปรโมชั่น หรือช่องทางบน Marketplace เช่น Lazada, Shopee ที่กำลังเป็นที่นิยม ก็ถือว่าเป็นช่องทางที่ดีสำหรับขายของออนไลน์เช่นกันค่ะ

  1. การตลาดคือผู้ช่วยสำคัญ

นอกจากช่องทางการขายที่หลากหลายแล้ว การทำการตลาดก็มีความหลากหลายเช่นกัน อย่างเช่น เว็บไซต์ ที่คุณจำเป็นต้องสร้าง Traffic ให้กับเว็บ โดยการทำ SEO ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ค่อนข้างใช้เวลา กับการซื้อโฆษณาจาก Google ที่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่ได้ผลตอบแทนเร็ว ส่วน Facebook การทำการตลาดนั้น มีลูกเล่นเยอะมากขึ้นทีเดียวค่ะ ไม่ใช่แค่โพสต์เพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น หรือสอบถาม แต่วิดีโอ การส่งข้อความ การคลิกลิงค์ไปยังเว็บไซต์ทันที ก็ถือว่าเป็นการตลาดที่ได้ผลทีเดียว เพียงแต่คุณต้องวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าให้ได้ เพราะการซื้อโฆษณา Facebook ค่อนข้างมีรายละเอียดให้ใส่เยอะ และเจาะลึก ส่วนการตลาดแบบอื่นๆ อย่างคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอ ข้อความ หรือรูปภาพ ไม่ควรเน้นขายอย่างเดียว แต่ควรให้ประโยชน์ ความรู้ และข้อเท็จจริงแก่ลูกค้าด้วย

  1. ระบบบริการด้วยใจ

สำหรับเทคนิคสุดท้ายที่สำคัญ และถือเป็นหัวใจของการขายของออนไลน์เลยก็คือ การบริการ ซึ่งหากคุณมีทั้ง 4 ข้อด้านบนครบแล้ว แต่ขาดการบริการที่ดี ไม่ใส่ใจ ไม่ดูแลลูกค้า ไม่แสดงความรับผิดชอบหรือพยายามช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหา คุณจะเสียลูกค้าทันที และมีผลเสียต่อในระยะยาวคือลูกค้านำไปรีวิว แสดงความคิดเห็น และบอกต่อ จนอาจทำให้ร้านของคุณไม่มียอดขายเข้ามาเลย เพราะฉะนั้นแล้ว หากคุณเลือกที่จะขายของออนไลน์ สิ่งหนึ่งที่คุณต้องสร้างอันดับแรกคือ ความน่าเชื่อถือ โดยให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจได้ว่า ซื้อของที่ร้านคุณแล้วจะเป็นของที่ดี มีคุณภาพ คุ้มค่ากับราคา และได้รับการบริการที่ดีเสมอมา ซึ่งในส่วนของการบริการจะรวมถึง การชำระเงิน การจัดส่ง การดูแลหลังการขาย การตอบคำถามหรือปัญหา โดยทุกส่วนล้วนแล้วแต่ต้องทำด้วยใจ และต้องทำให้ดีที่สุด

จัดหนักสุดๆสำหรับบทความนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจ หรือเริ่มที่จะขายของออนไลน์กันนะคะ ซึ่งในช่วงแรกที่ขาย อาจยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเท่าไรนัก อย่างไรก็ตาม ต้องพยายามศึกษาหาข้อมูลและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ทั้งเรื่องสินค้า การตลาด และบริการ แล้วความสำเร็จจะตามมาเอง

advertisement

About Admin

"สยามอาชีพ" อาชีพเสริม สร้างอาชีพ สร้างรายได้

One comment

  1. Pingback: ขายของออนไลน์ อย่างไรให้ปัง ขายอะไรดี อาชีพนี้ทำเงินเท่าไหร่

Leave a Reply

Your email address will not be published.