สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ สยามอาชีพ.คอม จะมานำเสนอเมนูแบบคลีน ๆ กันค่ะ เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดความอ้วนอยู่ด้วยนะคะ แต่ผู้หญิงอย่างพวกเราเห็นอะไรก็อยากกินไปหมด ฮ่าๆ เมนูที่ต้องกินอยู่ตลอด ก็คือ ของหวานค่ะ ขาดไม่ได้เลยต้อง “ชานมไข่มุก” เมนูยอดฮิต ดูดๆ เคี้ยวๆ เพลินปากมากเลย ทานแล้วมันไม่เหมาะสำหรับคนลดน้ำหนักเลยค่ะ ก็เลยเอาเมนูมาประยุกต์ จนกลายมาเป็น “ชานมฟักทอง” สุดแสนอร่อย หอมหวานละมุนลิ้น ซึ่งฟักทอง มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย คือ วิตามินเอ และใยอาหาร ช่วยให้ขับถ่ายง่ายด้วย รู้แบบนี้แล้วอยากทานกันแล้วใช่ไหม ตามไปดูวิธีการทำกันเลยดีกว่า ไปเลยค่า
วัตถุดิบ (สำหรับ 2 แก้ว)
- นมสด หรือ นมถั่วเหลือง 400 มล.
- น้ำเดือด 50-80 มล.
- ชาดำ 1 ช้อนชา (ถ้าชอบรสชาเข้มๆ ก็เพิ่มปริมาณได้ค่ะ)
- น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ
- ฟักทองฮอกไกโด หรือ ฟักทองญี่ปุ่น (ถ้าหาไม่ได้ ใช้ฟักทองไทยแทนได้ค่ะ) ชิ้นใหญ่ประมาณ 4×3 นิ้ว
- ผงอบเชย ¼ ช้อนชา
- เกลือป่น ปลายหยิบมือเล็กๆ
- เม็ดบุกไข่มุก หรือวุ้นมะพร้าว (ตามชอบค่ะ)
วิธีทำ
- นำฟักทองไปปอกเปลือก และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ถ้วยกันความร้อน ปิดด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ เอาฟักทองที่หั่นแล้ว ไปนึ่งในไม่โครเวฟ ประมาณ 7 นาที ด้วยความร้อนสูงสุด ถ้าซื้อที่นึ่งสำเร็จมาแล้ว ควรนำไปเข้าไมโครเวฟ 1-2 นาที เพื่อฆ่าเชื้อ และทำให้บดง่ายขึ้นค่ะ
- นำฟักทองที่นึ่งแล้ว ใส่เครื่องปั่น เติมนมประมาณ 5-6 ช้อนโต๊ะ เพื่อให้ปั่นง่ายขึ้น ถ้าไม่มีเครื่องปั่น ให้ใช้ส้อมบดให้แหลกเท่าที่จะทำได้ เติมนม แล้วบดๆ คนๆ ไปเรื่อยๆ จนละเอียดที่สุด
- ต้มชากับน้ำเดือด ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วใส่น้ำผึ้งกับเกลือลงไป คนให้ละลาย
- ใส่ผงอบเชยกับฟักทองที่บดแล้วลงไป คนให้เข้ากัน
- ขณะที่ชายังร้อนอยู่ ให้ผสมฟักทองบด (ผสมอบเชยแล้ว) เข้าด้วยกัน คนๆ จนรวมกันเป็นเนื้อเดียว ถ้าชอบรสสัมผัสเนียนๆ แนะนำให้ใช้กระชอนตาถี่มากรองส่วนผสม แล้วเติมนมลงไป
- นำเข้าตู้เย็น หรือจะทานแบบอุ่นๆ ก็อร่อยไปอีกแบบ แนะนำให้แช่เย็นข้ามคืนนะคะ จะทำให้ชานมเข้มข้นขึ้น เทใส่แก้ว เติมเม็ดบุกไข่มุก หรือวุ้นมะพร้าวลงไป เป็นอันเสร็จ พร้อมเสิร์ฟจ้า
**ควรดื่มให้หมดภายใน 2 วัน นานกว่านี้รสชาติเปลี่ยนค่ะ
แฮร่ น่าทานใช่ไหมค่ะ ของหวานๆ ก็ต้องเป็นที่ชื่นชอบของคุณผู้หญิงอยู่แล้ว อิอิ แต่เมนูนี้ช่วยให้เราไม่ต้องรู้สึกกังวลเรื่องน้ำหนักเลยค่ะ ฟักทอง มีกากใย ช่วยให้ถ่ายง่ายขึ้นอีกต่างหาก เป็นเมนูที่ยอดเยี่ยมมาก หวาน หอม อร่อย แถมยังไม่อ้วนอีกด้วย สำหรับวันนี้ลาไปก่อนนะค่า เจอกันใหม่เมนูหน้าจ้า
เขียนสูตรอาหาร และรูปภาพโดย : สมาชิก pantip.com : loop_br