สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่อยากสมัครบัตรเครดิตคงเป็นเรื่องง่าย เพราะมีสลิปเงินเดือนอยู่แล้วจึงขอทำบัตรเครดิตได้สบาย ดีไม่ดีธนาคารติดต่อมาขอทำให้ด้วยซ้ำ แต่สำหรับคนที่ทำอาชีพอิสระ แล้วอยากมีบัตรเครดิตคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะไม่มี สลิปเงินเดือนซึ่งเป็นเอกสารสำคัญในการทำบัตรเครดิตนั่นเอง!!
สมัครบัตรเครดิตแล้วไม่ผ่านเพราะสาเหตุดังต่อไปนี้
เอกสารไม่ครบ ซึ่งเอกสารที่ต้องใช่คือ
- สมุดบัญชีเงินฝาก
- สำเนาบัตรประชาชน
- สมุดบัญชีเงินฝากที่เงินเดือนเข้า ย้อนหลัง 6 เดือน
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน
และบางคนก็ฐานเงินเดือนไม่เข้าเกณฑ์คือเงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน หรือบางคนก็ติดเครดิตบูโร(ผู้สมัครมีประวัติค้างชำระสินเชื่อกับสถาบันการเงิน) รวมไปถึงพวกประกันสังคมด้วย จึงทำให้ไม่ผ่านการอนุมัติเสียที การสมัครบัตรเครดิตไม่ว่าจะสถาบันการเงินไหนก็มีเกณฑ์ที่คล้ายกัน หากไม่เคยมีประวัติค้างชำระ เตรียมเอกสารครบถ้วน และฐานเงินเดือนเข้าเกณฑ์โอกาสการอนุมัติก็มีสูง
แต่ในกรณีที่มีอาชีพอิสระ ไม่มีสลิปเงินเดือน ก็สามารถทำบัตรเครดิตได้!!
โดยการสมัครแบบฝากค้ำประกัน
คือการนำเงินสดไปฝากไว้กับธนาคารที่ต้องการสมัครบัตรเครดิต เพื่อใช้เงินจำนวนนั้นเป็นหลักค้ำประกันการทำบัตร ซึ่งเราจะได้รับวงเงินบัตรเครดิตตามจำนวนของเงินฝากโดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่เลยว่าต้องการสมัครบัตรเครดิตแบบใช้เงินฝากค้ำประกัน แล้วเค้าจะดำเนินการต่อให้เอง วิธีนี้เรียกว่าการทำบัตรเครดิตแบบใช้เงินฝากเราไปค้ำประกัน (หรือการทำบัตรเครดิตแบบFix)
คุณสมบัติของบัตรเครดิตที่เราจะได้นั้นก็เหมือนบัตรเครดิตทั่วไป
- สามารถสะสมแต้มได้
- รูดซื้อสินค้าได้
แต่จะมีวงเงินแค่ตามที่เราฝากไว้เท่านั้น ส่วนการจะขอเพิ่มวงเงินก็สามารถทำได้ โดยเอาเงินเข้าไปฝากเพิ่มในบัญชี ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับยอดสักระยะ
การสมัครบัตรเครดิตบางทีก็เป็นเรื่องจำเป็นเพราะจะทำให้ธุรกรรมทางการเงินสะดวกขึ้น การชำระสินค้าบางประเภทก็นิยมรับบัตรเครดิตมากกว่าอย่างเช่นการจองตั๋วเครื่องบิน การจองโรงแรม การผ่อนชำระสินค้า 0% โดยที่เราไม่ต้องใช้เงินก่อน หรือแม่แต่การได้ส่วนลดในร้านอาหารซึ่งถ้าชำระเป็นเงินสดจะต้องจ่ายจำนวนเต็ม ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะสิทธิประโยชน์ที่ได้รับก็เยอะพอสมควรไม่ว่าจะเป็นแต้มหรือส่วนลดต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามต้องไม่หลงกลไปกับโฆษณาต่างๆที่คอยหลอกล่อให้คนใช้บัตรเครดิตเกินตัว บัตรเครดิตถ้าใช้ไม่ดีก็เป็นหนี้ก้อนโตได้ฉะนั้นจะต้องมีสติในการใช้จ่ายอยู่เสมอ