ชื่อของงานอาจจะเป็นงานเฉพาะด้านอยู่สักหน่อย แต่ในบ้านเราก็เริ่มมีผู้ที่เรียนกันบ้างแล้ว ก่อนอื่นต้องขออนุญาตอธิบายคร่าวๆ ก่อนว่าอาชีพ 3D Artist (อ่านว่า ทรีดี อาร์ททิส) หรืออาชีพศิลปินวาดภาพสามมิติ หรืออาจจะเรียกง่ายๆ คือ การวาดภาพสามมิติโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือ อาจจะเรียกว่า จิตกรสามมิติ ก็แล้วแต่จะให้คำจำกัดความกันไป แต่ในที่นี้ เราจะขอ เรียกว่า 3D Artist ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นอาชีพอิสระ และการเป็นเจ้านายตนเอง
อาชีพนักออกแบบ 3 มิติ ในต่างประเทศจะเป็นงานที่ได้รับความนิยมในหมู่คนที่ชอบเล่นเกมส์สามมิติ และงานสร้างหนังที่ต้องใช้เทคนิคในการสร้างภาพสามมิติเข้ามาช่วย โดยงานที่ได้จากการเขียนภาพสามมิติ นี้ สามารถนำมาต่อยอดเพื่อไปทำภาพเคลื่อนไหวได้ คิดว่าหลายๆ ท่านคงจะพอนึกภาพออกกันบ้างแล้วนะคะ แต่สำหรับเมืองไทยปัจจุบันอาจจะพอเห็นกันบ้าง ในการนำมาใช้สำหรับทำการ์ตูนแอนิเมชั่น ให้เราได้เห็นกันทั้งในภาพยนตร์ และในโทรทัศน์
จุดเด่นของงาน
เป็นงานที่ต้องอาศัยความสามารถเฉพาะด้าน และเป็นงานที่สามารถทำที่บ้านได้ เพียงแค่มีคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง และอินเตอร์เน็ต เพียงเท่านี้ก็สามารถทำงานได้แล้ว แต่คอมพิวเตอร์ควรมีสเปคที่สูงพอสมควรเพื่อรองรับซอฟท์แวร์ที่จะใช้งานได้ เนื่องจากตัวซอฟแวร์ที่เกี่ยวเนื่องนี้จะมีขนาดใหญ่พอสมควร
สามารถทำงานได้กับทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ถึงแม้ว่าจะนั่งทำงานอยู่ที่บ้านก็ตาม เป็นอาชีพอิสระที่ไม่จำเป็นต้องมีออฟฟิศ หรือหน้าร้าน
สามารถพัฒนาจาก 3D Artist ไปเป็น 3D Gallery หรือ 3D Out Sourcing โดยการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาและมีการสั่งสมประสบการณ์ที่เพียงพอ สามารถจัดการและวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบ และได้มีการสร้างทีมงานขึ้นมาจาก 3D Artist Freelance ที่ทำงานออนไลน์ด้วยกัน แต่ต่างความสามารถกัน เกิดเป็น 3D Gallery เพื่อรับงานเป็นโปรเจคใหญ่ๆ เช่น งานสร้างเกม 3D จากบริษัทวอลส์ดิสนีย์ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้เกิดรายได้ที่จะได้รับมากขึ้นอีกด้วย และเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับมากขึ้น จึงควรที่จะจัดตั้งเป็นบริษัท ซึ่งนั่นก็เป็นอีกหนึ่งความเติบโตที่สามารถเกิดขึ้นได้จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ เพียงแค่ศิลปิน
รายได้ที่จะได้รับสำหรับ 3D Artist Freelance ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญรายได้มักอยู่ที่ประมาณ 60,000-200,000 บาท ต่อเดือน (ประเมินจากรายได้ของ 3D Freelance ที่ทำงานกับบริษัทต่างชาติ) หากเป็นคนไทยทำงานกับบริษัทของไทยราคามักเริ่มต้นที่ประมาณ 18,000-36,000 บาท ต่อเดือน แต่หากได้โปรเจคใหญ่ๆ ก็สามารถที่จะเกิดรายได้ที่มากขึ้นตามมาด้วย
ทักษะที่ต้องใช้เกี่ยวกับงาน
เป็นงานสำหรับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญหรือมีความรู้ทางด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือซอฟท์แวร์(Software) โดยเฉพาะโปรแกรมเกี่ยวกับงานสร้างภาพ หรือวาดภาพสามมิติ เช่น โปรแกรมมายา(maya) หรือ 3D Studiomax, Vray และ Photoshop ซึ่งนอกจากการมีความรู้ด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์แล้ว ความสามรถในการใช้งานตัวซอฟท์แวร์ที่กล่าวถึงยังสำคัญมากอีกด้วย โดยควรที่จะสามารใช้ซอฟท์แวร์ในการสร้าง Dynamic ทำน้ำ (สามารถใช้โปรแกรม Realflow หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้) และยังต้องมีความรู้ความเข้าใจ render layer ได้ค่อนข้างดี อีกทั้งมีความสามารถทางศิลปะและการจัดองค์ประกอบ เข้าใจธรรมชาติของแสงและพื้นผิวเป็นอย่างดี ซึ่ง 3D Artist หรือศิลปินส่วนใหญ่ควรจะมีตรงนี้ โดยความสามารถด้านนี้จะเห็นได้ชัดจากการที่เรามีความรู้ด้านการถ่ายภาพ และการสเก็ตภาพนั่นเอง คุณสมบัติข้างต้น คือคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง หรือความสามารถสำหรับคนที่ต้องการจะทำควรมี
ผู้ที่ทำอาชีพนักออกแบบ 3 มิติ ต้องมีทักษะในการวาดภาพ ด้วยมืออย่างเชี่ยวชาญ และต้องมีจินตนาการสูงพอสมควร เพราะบางครั้งงานต้นแบบที่ได้รับมาอาจจะเป็นเพียงภาพสเก็ต หรืออาจจะเป็นเพียงคำอธิบาย ซึ่ง ”จิตกรสามมิติ” นี้ต้องจินตนาการ และสเก็ตออกมาเป็นภาพ เพื่อเสนอแนวทางก่อนที่จะได้รับการอนุมัติ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานได้
คุณสมบัติที่ขาดไม่ได้สำหรับ 3D Artist เพื่อเป็นอาชีพอิสระ โดยการเป็นเจ้านายตนเอง นั่นคือ ต้องมีความรับผิดชอบสูง และตรงต่อเวลา สามารถดูแลและวางแผนการทำงานเพื่อให้สามารถส่งงานได้ทันตามกำหนด เพราะการทำงานที่ใช้การสื่อสารผ่านโซเชียล หรือการทำงานออนไลน์ต้องอาศัยความเชื่อใจ และหากศิลปินส่งงานไม่ทันตามกำหนดอาจจะมีผลกระทบต่อทีมงานอื่นๆ ตามมาด้วย และหากศิลปินทำผลงานได้ดี และมีคุณภาพ ส่งงานตรงตามเวลา และผลงานที่ออกมาเกินกว่าความคดหมายไว้ แน่นอนว่าอาจจะได้งานอื่นๆ ตามมา และอาจะได้รับการแนะนำจากบริษัทที่เราทำงานให้ก็ได้
วิธีสร้างงาน
การติดต่อบริษัทที่จะจ้างให้ทำงาน โดยปกติผู้ที่เป็น 3D Artist มักจะมีสังคม หรือกลุ่มคน หรือที่เรียกว่า คอนเน็คชั่นอยู่แล้ว วิธีการก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการส่งอีเมล์ ไปยังบริษัทที่ตนเองมีคอนเนคชั่น ด้วยการทำจดหมายแนะนำตัว เพื่อนำเสนอผลงาน โดยเจ้าของผลงานสามารถทำได้ทั้งในรูปแบบ portfolio หรือ ทำเว็บไซต์เสนอผลงานของตนเองขึ้นมา
การโพสต์แนะนำตนเองในฟอรั่มต่างๆ ที่เป็นสังคมออนไลน์ เพราะการโพสต์ในฟอรั่มกลุ่มคนพวกนี้ ส่วนมากมักจะมี 3D Artist ที่ทำงานบริษัทใหญ่ๆ รวมอยู่ด้วย ซึ่งอาจจะสามารถแนะนำงาน และแนะนำบริษัทที่กำลังมองหา 3D Artist แบบคุณก็ได้
ติดต่อเพื่อนฝูงที่อยู่ในวงการเดียวกัน งานนี้อาจจะต้องอาศัยคอนเนคชั่นส่วนตัว เพื่อช่วยผลักดันให้เกิดงาน และเกิดเงินเพิ่มขึ้น และโดยส่วนใหญ่แล้ว 3D Artist ที่เก่งๆ และมีวินัยในตนเองมักจะหางานได้ไม่ยากเลย หากเป็นเพื่อนด้วยก็อยากจะแนะนำให้กับบริษัทที่ดีเพื่อมีงานทำ แต่หากตรงกันข้าม คงยากที่ใครๆ จะช่วยเหลือได้ ดังนั้น งานจึงขึ้นอยู่กับศิลปินเอง
ความนิยมของงาน
ปัจจุบันถือว่าค่อนข้างได้รับความนิยมพอสมควร เพราะงาน 3D Artist เป็นอาชีพอิสระ ที่ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศก็สามารถทำงานได้ เพียงแค่มีภาพสเก็ตหรือภาพถ่าย หรือคำอธิบาย พร้อมกับแนบภาพถ่ายแนวทางที่ต้องการจากผู้ว่าจ้างก็สามารถทำได้ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย สามารถอธิบายผ่านทางอีเมล์ หรือผ่านทาง Skype หรือในปัจจุบัน สามารถพูดคุยแบบเรียลไทม์เป็นกลุ่ม ผ่านโปรแกรม Line ได้ โดยสามารถเห็นหน้าศิลปินและทีมงานท่านอื่นๆ พร้อมทั้งสามารถแสดงความคิดเห็น และเสนอสิ่งที่ต้องการ เหมือนกับ การประชุมออนไลน์ได้เลย แต่ในปัจจุบันได้มีการอธิบายการทำงานและการใช้ซอฟแวร์บางตัวที่ศิลปินอาจจะติดขัดบ้างผ่านทางวีดีโอ
สำหรับอาชีพ 3D Artist นี้ ต้องขอบอกเลยว่า สามารถนำไปใช้ในงานแขนงต่างๆได้อย่างมากมาย ชนิดที่ว่าหลายคนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว ซึ่งนับว่าจากจุดเล็กๆ เพียงการวาดภาพในกระดาษในสมัยเด็ดก็ได้พัฒนามาเป็นการวาดลงคอมพิวเตอร์ และไม่เพียงเท่านั้นยังได้อาศัยหลักการเดียวกับการสร้างการ์ตูนมือ สามารถนำไปสร้างเป็นการ์ตูนแอนนิเมชั่น ที่เราได้เห็นกันในปัจจุบันนี้ และยังไม่เพียงเท่านั้นด้วยหลักการเดียวกันนี้ได้ถูกนำไปใช้ในการสร้างภาพยนตร์ ไม่เว้นแม้แต่ละครโทรทัศน์ในปัจจุบัน นี่คือการนำ 3D มาใช้ในงานแขนงต่างๆ
นอกจากนี้งาน 3D Artist ได้ถูกนำมาใช้ในหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเสื้อผ้า ธุรกิจการแสดง ธุรกิจการ์ตูนสามมิติ ธุรกิจการออกแบบบ้าน หรือแม้กระทั่งงานออกแบบภายใน (Artichecture) หรือ Interior design และที่เป็นที่นิยมสำหรับงาน 3D Artist คืองานสร้างเกม 3Dนั่นเอง
ความเป็นไปได้ของผู้ที่อยากเริ่มต้น
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า ผู้เขียนไม่ได้มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญเพื่อที่จะเป็น 3D Artist แต่อย่างใดเลย แต่เนื่องจากมีคนใกล้ชิดที่มีประสบการณ์ทำงานถึงขั้นเชี่ยวชาญ และเคยร่วมงานกับบริษัทใหญ่ๆ อย่าง วอลท์ดิสนีย์มาแล้ว และต้องขอบอกว่าไม่ง่ายเลยที่จะทำได้ขนาดนั้น แต่ก็ไม่ยากเลยที่จะเรียนรู้
ปัจจุบันในประเทศไทยได้มีสถาบันเปิดสอนสำหรับ 3D Artist กันบ้างแล้ว มีทั้งหลักสูตรระยะสั้นและระยะยาว และสามารถเรียนได้ตั้งแต่เด็กๆ ที่รู้จักคอมพิวเตอร์ และสามารถจับปากกาดินสอกันได้เลยทีเดียว ไม่เว้นแม้แต่ผู้ใหญ่ที่อยากจะเรียนรู้งานด้านนี้เพื่อนำไปใช้ด้วย
สำหรับเบื้องต้นผู้เรียนต้องเรียนรู้จากการสร้างภาพสเก๊ตด้วยมือ การถ่ายภาพ เพื่อดูมุมมอง แสง และเงาของภาพ จากนั้นจึงเรียนรู้การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่ละสถาบันจะใช้โปรแกรมที่ไม่เหมือนกัน แต่โดยหลักๆ ที่ใช้กันอยู่จะเป็น โปรแกรมมายา(maya) หรือ 3D Studiomax, Vray และ Photoshop (เพื่อใช้ปรับแต่งภาพ)
ลักษณะการเรียนจะเป็นการสร้างภาพในแบบต่างๆ เพื่อให้เกิดทักษะที่เพิ่มขึ้น และผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้จากการฝึกฝนและทำบ่อยๆ เมื่อเกิดความเชี่ยวชาญในการใช้งานโปรแกรม ก็จะเข้าสู่กระบวนการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งตรงนี้ต้องใช้จิตนาการของแต่ละคน และความคิดในการรังสรรค์ผลงาน ซึ่งศิลปินแต่ละท่านจะมีสไตล์ที่ไม่เหมือนกัน
การต่อยอดเพื่อให้เกิดธุรกิจ
ปัจจุบันที่ได้เห็นศิลปินสามมิติสมัครเล่นในบ้านเราได้นำ 3D Artist เข้ามาเพื่อสร้างให้เกิดเป็นอาชีพเสริม เพียงเพื่อความชอบในการวาดภาพ และได้ต่อยอดมาเป็นการวาดภาพเหมือนหรือวาดภาพเป็นตัวการ์ตูนลงในเคสมือถือ แล้ววางขายทั้งในตลาดนัด ในเว็บไซต์ หรือในโซเชียลอย่างเฟสบุ๊ค ก็ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว โดยจะเห็นว่าไม่ต้องเป็นศิลปินสามมิติแบบเต็มตัว หรือต้องมีประสบการณ์ทำงานสูง ก็สามารถนำความรู้ด้านนี้มาสร้างเป็นธุรกิจแนวใหม่ได้
อีกอาชีพแนะนำที่เกิดจากการต่อยอดทางธุรกิจของ 3D Artist นั่นคือ การวาดภาพการ์ตูน เพื่อนำไปสร้างเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์ และได้วางขายกันอย่างมากมายในโลกโซเชียล ทั้งแบบธรรมดา แบบดุ๊กดิ๊ก แบบมีเสียงด้วย แทบจะเลือกกันไม่ถูกเลยทีเดียว
อีกหนึ่งธุรกิจที่เกิดจากการต่อยอดของ 3D Artist การสร้างสรรค์ผลงานวาดภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เช่นการวาดภาพแมว หรือนกฮูก ที่ไม่เหมือนใคร และมีสไตล์เป็นของตนเอง แล้วนำภาพวาดนั้นไปสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ขึ้นมา เช่น หมอนหน้าแมวแบบต่างๆ หมอนหน้านกฮูก เป็นต้น ซึ่งแนวคิดนี้ก็เกิดจากการสร้างสรรค์ผลงานของ 3D Artist ที่อยากทำอาชีพอิสระ และมีผลิตภัณฑ์ เป็นของตนเอง
ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถต่อยอดจากธุรกิจที่ได้สร้างสรรค์เป็นผลงานนี้ ให้เกิดการขยายตลาด เพื่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น ที่ไม่ใช่เพียงอาชีพเสริม แต่สามารถทำเป็นอาชีพหลักต่อไปได้อีกด้วย