“ผ้าต่วน” และ “ผ้าตาด ลายไทย” หลายคนที่ไม่ได้ทำงานผ้า อาจจะไม่รู้จัก แต่ใครจะรู้ว่าสามารถนำมาจับเป็นสม๊อก ได้สวยงาม จนใครเห็นแล้วต้องทึ่งในความงาม อย่างลงตัวของผ้าชนิดนี้ หมอนฟักทอง เป็นงานฝีมือที่ค่อนข้างละเอียด และสวยงาม เหมาะสำหรับไว้ใช้ในงานแต่งงาน งานบวช หรือเป็นของฝากก็ได้อีกด้วย
ลักษณะอาชีพ
เป็นงานฝีมือที่อาศัยความละเอียดอ่อน และความประณีต ชำนาญ อีกทั้งความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากบางครั้งต้องคิดลายที่จะปักเองไม่มีแบบ นั่นคือต้องทั้งปัก และออกแบบเอง อีกทั้งงานปักผ้าเป็นงานอีกงานที่ต้องทำทีละเล็กทีละน้อย และเป็นขั้นตอน ต้องมีการเลือกด้ายให้เหมาะกับสีผ้าด้วย ซึ่งหมอนฟักทองนี้เหมาะสำหรับนำไปเป็นของรับไหว้ในงานแต่งงาน หรือหมอนรองสำหรับรดน้ำสังข์ หรือใช้ในงานบวช อาจจะประดับตกแต่งในรถยนต์ ใช้เป็นของประดับตกแต่งบ้าน หรือนำไปเป็นของฝาก เป็นต้น
สามารถทำเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่นได้ด้วย เช่น กล่องกระดาษทิชชู่รูปแบบต่างๆ ปลอกหมอนรูปแบบต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่กระเป๋า เป็นต้น
สามารถทำได้ทุกช่วงอายุ และเหมาะสำหรับทำเป็นอาชีพอิสระ สำหรับผู้ที่ว่างเว้นจากงานประจำ หรือกลุ่มแม่บ้านที่ว่างเว้นจากงานเรือกสวนไร่นา ไม่เว้นแม้แต่เด็ดนักเรียนที่ต้องการรายได้เสริม เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระคุณพ่อคุณแม่ สำหรับเงินไปโรงเรียน
การลงทุน
ต้นทุนต่อหมอน 1 คู่อยู่ที่ประมาณ 200-400 บาท สำหรับขนาด 11-14 นิ้ว และยังเหลือเศษผ้าอีกเล็กน้อย เพื่อทำหมอนฟักทองขนาดเล็ก หรือนำมาประยุกต์ทำเป็นพวงกุญแจขนาดเล็ก เพื่อวางขายได้อีกด้วย
วัสดุอุปกรณ์
- ผ้าต่วน และผ้าตาด ลายไทย ราคาเมตรละประมาณ 45-60 บาท หน้ากว้าง 44 นิ้ว ผ้า 1 เมตรทำหมอนฟักทองได้ 1 คู่ (2ใบ) ขนาดหมอน 11-14 นิ้ว ขึ้นอยู่กับแบบที่เราเลือก
- ด้ายเย็บ 1 ม้วน สีเดียวกับผ้า
- เข็มสอย 1 อัน ใช้เข็มสอย เพราะมีขนาดเล็ก สามารถปักได้ง่าย
- กระดุมปั๊ม 4 เม็ด สำหรับหมอน 1 คู่
- เชือกไนลอนสำหรับเย็บกับกระดุมปั๊ม เพื่อดึงกระดุมทั้งสองด้านให้ตึง
- นุ่นสำหรับยัดหมอน ไม่แนะนำให้ใช้ใยโพลีเอสเตอร์ เนื่องจากต้องใช้ปริมาณมากและราคาแพง
( ใยโพลีเอสเตอร์ราคากิโลกรัมละ 120-150 บาท)
รายได้
ราคาหมอนอยู่ที่ใบละประมาณ 200-550 บาท สำหรับขนาด 11-14 นิ้ว ขึ้นอยู่กับขนาดและความยาก ง่ายของลายหมอน โดยปกติจะขายเป็นคู่ เพราะในงานแต่งงาน หรืองานบวชจะใช้เป็นคู่ และสีเดียวกัน สำหรับพวงกุญแจ หรือหมอนขนาดเล็ก สามารถขายด้วยราคาเริ่มต้นที่ 20-100 บาท เลยทีเดียว
แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์
การขายและการตลาด
- หากจะมีหน้าร้านให้เลือกหน้าร้านที่เป็นแหล่งชุมชน ติดถนน ผู้คนเดินผ่านไปมาและเห็นง่าย หรือหากใกล้วัดก็ดี เนื่องจากเวลามีงานบวช คนมักหาซื้อเครื่องสังฆภัณฑ์ บริเวณร้านใกล้ๆ วัด หรือผู้คนที่มางานบวชจะได้เห็นผ่านตา
- หากตั้งโต๊ะขายตามตลาดนัด ควรเลือกโซนที่ผู้คนมองเห็นง่าย โต๊ะที่ใช้ต้องสูงพอประมาณ อย่าสูงเกินไป หรือเตี้ยเกินไป ให้สูงประมาณระดับสายตา
- หากไม่มีหน้าร้านต้องการขายทางอินเตอร์เน็ต ต้องมีการทำเว็บไซต์ และโปรโมตเว็บเพื่อให้ผู้คนรู้จักและเข้าเยี่ยมชม หรือวางขายในเว็บสำหรับงานฝีมือ หรืองานแฮนด์เมด เช่น https://www.etsy.com/market/handmade เป็นต้น
- แนะนำให้ขายตามงานออกบูธ เช่น งานกลุ่มแม่บ้าน งานฝีมือ หรืองานหัตถกรรม เป็นต้น ซึ่งงานแบบนั้นผู้คนหลากหลาย จึงเป็นเรื่องยากที่จะโปรโมตสินค้าของเราให้เป็นที่รู้จัก ดีไม่ด้อาจจะได้คอนเน็คชั่น เข้าไปขายสินค้าแฮนด์เมด หรือผลิตภัณฑ์ไทยๆ ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง ห้างเซนทรัล หรือเซน ก็เป็นไปได้
- มีการติดป้ายราคาให้ชัดเจนทุกแบบ ทุกสี เพื่อง่ายในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของเราจากลูกค้า
- ต้องจัดให้มีสินค้าหลากหลาย เช่น หมอนฟักทองขนาดต่างๆ ทั้งเล็ก ทั้งใหญ่ คละขนาด คละลาย หรืออาจจะนำผ้ามาจับสม๊อกแปลงเป็นผลิตภัณฑ์อื่น เช่น กล่องใส่กระดาษทิชชู่ พวงกุญแจ ปลอกหมอน หมอนอิง เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อดึงดูดลูกค้า และให้เกิดความน่าสนใจมากขึ้น ว่าเราสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้หลากหลายแบบ ไม่ใช่เพียงแค่หมอนฟักทอง
กลุ่มลูกค้า
ผู้คนทั่วไป วัยทำงานจนถึงผู้สูงอายุ
นักท่องเที่ยว ที่ต้องการซื้อเป็นของฝาก
One comment
Pingback: งานฝีมือแบบไทยๆ “หมอนฟักทอง” ทำเงินจากผ้าต่วน | ิยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์สุดารัตน์