“การเป็นนักปฏิบัติสำคัญกว่าการเป็นนักวางแผน” มีใครชอบตั้งเป้าหมายแล้วไม่ค่อยสำเร็จตามแผนบ้าง ทั้งๆที่วางแผนมาดิบดี จัดตารางการทำงานอย่างเป๊ะไม่ขาดตกพกพร่อง แต่สุดท้ายก็ต้องพังพินาศเพราะทำไม่ได้ตามแผนที่วางไว้ ถ้าใครอยากสำเร็จอย่างจริงจังแล้วล่ะก็ ต้องลองนำสุดยอด 5 เคล็ดลับที่ใช้ในการทำงานนี้ไปปรับใช้ เป็นเคล็ดลับที่คนสำเร็จระดับโลกหลายคนใช้กันเชียวนะ
- รู้จักตัวเอง
อย่างแรกเลยต้องรู้ว่าตัวเอง “ต้องการอะไร” คนเราเป้าหมายในชีวิตแตกต่างกัน บางคนทำงานอะไรก็ได้ขอให้ได้เงินเยอะๆ บางคนขอให้ได้ทำงานที่สบายๆ ไม่เครียด เงินไม่เยอะไม่เป็นไร
ต่อมาก็ต้องรู้ว่าตัวเอง “ถนัดอะไร” มีอะไรที่สามารถทำตามความฝันได้ แล้วมีอะไรที่ต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เช่นต้องไปเรียนภาษาอังกฤษเพื่อสอบ Toeic เอาคะแนนไปสมัครงานในฝัน เป็นต้น
- มีมานะอดทน
ไม่มีความฝันใดได้มาง่ายๆโดยไม่พยายามหรอก ลอง search ดูประวัติคนที่เค้าประสบความสำเร็จแล้วสัก 10 คน จะเป็นคนไทยหรือต่างประเทศก็ได้ แล้วคุณจะได้เห็นชีวิตของพวกเค้าว่าก่อนจะสำเร็จมีชื่อเสียงโด่งดังขนาดนี้พวกเค้าต้องพบเจออะไรมาบ้าง
บางคนเริ่มต้นจากติดลบ ล้มลุกคลุกคลาน เมื่อเจอปัญหาก็แก้ปัญหา เมื่อปัญหาเก่าไป ปัญหาใหม่ก็เข้ามา บางทีเจอปัญหาพร้อมๆกันหลายเรื่อง ก็ต้องแก้ไปเรื่อยๆ แต่พวกเค้าก็ผ่านมาได้และสำเร็จโด่งดังอย่างที่เห็น สิ่งสำคัญที่พวกเค้ามีก็คือความ “มานะอดทน” คิดดูว่าถ้าเค้าท้อแท้และล้มเลิกเสียตั้งแต่ตอนนั้นก็คงไม่มีวันนี้แน่นอน
- หาที่ปรึกษาในสายงานนั้นๆ
การมีที่ปรึกษาในสายงานที่เรากำลังสนใจจะช่วยให้เราสำเร็จได้เร็วขึ้น อย่างเช่นเราสนใจอยากเป็นนักเขียน การหาข้อมูลเองอาจมีข้อสงสัยหลายอย่าง กว่าจะหาคำตอบได้บางทีก็ลองผิดลองถูกแสะเสียเวลาไปมาก ถ้าเราได้รู้จักกับคนที่อยู่ในแวดวงงานเขียน จะช่วยทำให้เรามีไอเดีย มีมุมมองใหม่ และมีความรู้มากมายที่ไม่เคยได้รู้มาก่อน
การมีที่ปรึกษาที่ดีเริ่มต้นง่ายๆจากการหาบุคคลตัวอย่างที่เราชอบผลงานของเค้า (ไอดอล) เช่นพี่ที่ทำงาน หัวหน้าแผนก แม้แต่ลูกค้า หรือถ้าไอดอลของคุณเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงที่โลกรู้จักก็ยิ่งง่าย เพราะคนสำเร็จหลายคนชอบมีผลงานหนังสือให้อ่าน ลองซื้อหนังสือของพวกเค้ามาอ่าน ศึกษาชีวิตและความคิดของพวกเค้าจากหนังสือก็ได้เช่นกัน
- หมั่นสร้างโอกาสให้ตัวเองอยู่เสมอ
คนที่สำเร็จส่วนใหญ่ไม่ได้รอโชคช่วย แต่พวกเค้าสร้างโชคให้กับตัวเอง ถ้าวันนี้คุณบอกว่าอยากทำงานในบริษัทใหญ่แต่เข้าไม่ได้เพราะไม่เก่งภาษาอังกฤษ แล้วทำไมเราไม่เริ่มเรียนภาษาอังกฤษซะเลยล่ะ! ถ้ามัวแต่รอให้ได้งานในบริษัทใหญ่ก่อนค่อยเริ่มเรียนคงจะไม่มีทางแน่ๆ
- แบ่งความสำคัญของงานให้เป็น
“ระหว่างสิ่งที่อยากทำกับสิ่งที่ควรทำ” บางที สิ่งที่ควรทำก็แสนจะน่าเบื่อ ทำให้ไม่มีแรงจูงใจในการทำงานเอาเสียเลย แต่อย่างไรก็ตามไม่ช้าก็เร็วคุณก็ต้องทำมันอยู่ดี แถมปล่อยไว้รังแต่จะทำให้งานค้างเป็นดินพอกหางหมู สุดท้ายงานก็ไม่เสร็จตามเป้าหมาย แล้วก็วกกลับมาที่จุดเดิมที่ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ
เอาอย่างนี้ดีมั้ยคะ ถ้าคิดว่างานน่าเบื่อก็ต้องรีบจัดการกับมันให้เสร็จเร็วๆ รีบใช้เวลากับสิ่งที่ไม่น่าจูงใจให้น้อยที่สุด จะได้มีเวลาเหลือเอาไปทำสิ่งที่เราอยากทำดีกว่า
ใจความสำคัญของความสำเร็จคือการลงมือทำ ไม่ว่าคุณจะวางแผนมาดีแค่ไหนแต่หาก “ไม่เริ่มทำ” และ “ทำไม่ต่อเนื่อง” แผนดีแค่ไหนก็ต้องพังลง