ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันซึ่งอาจเปรียบได้กับภาวะเศรษฐกิจขาลง ไม่ว่าจะค้าขายสินค้าประเภทไหน ไม่ว่าจะมีหน้าร้านหรือไม่ หันหน้าไปทางไหนต่างก็เจอหน้าไม่ค่อยจะสบอารมณ์ของบรรดาพ่อค้าแม่ค้า และมักจะออกอาการและบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า “ตลาดเงียบ” เงียบชนิดที่ได้ยินทุกฝีก้าวของคนเดิน หันหน้าสบตากันไม่ว่าจะเป็นร้านข้าง ๆ ร้านข้างหน้า เผลอๆ บางคนบ่นถึงขั้นนั่งตบยุงเลยก็มี
บางตลาดก็คึกคักหน่อย อาจจะมีคนเดินมาแวะ มาดู มาชมสินค้าบ้างประปราย แต่ถ้าหวังคนซื้อน่ะเหรอ อาจจะมีน้อย ถึงน้อยมากเลยทีเดียว นี่ไม่ใช่นิยาย ไม่ใช่ข้อความข่มขู่ แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้คือเรื่องจริง ภาวะเศรษฐกิจขาลงเช่นนี้ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าหลายคนต่างก็ถอดใจ บ่นอุบ น้อยใจกันหลายราย ไม่ได้นับเฉพาะแม่ค้าขายปลีกตามตลาด ห้างสรรพสินค้า มีหน้าร้าน แต่ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ก็กระทบไปยังผู้ค้ารายใหญ่ ที่ขายส่งเช่นเดียวกัน
บางรายอาจจะมีลูกค้าลดน้อยลง ยอดขายลดลง แต่ความหนักใจและน่าเห็นใจที่สุดก็น่าจะเป็นกลุ่มแม่ค้ารายย่อย ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เศรษฐกิจจะซบเซาลงอีกไหม จะแก้ปัญหาได้เมื่อไหร่ แต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในยุคนี้ต้องสตรองคำเดียวนั้น มาดูกันสิคะว่า เทคนิคในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจขาลง จนตลาดส่อเค้าว่าจะเงียบนั้นจะทำอย่างไรกันดี
5 เทคนิค ในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจขาลง มีอะไรบ้าง
1. คิดบวก เดินหน้า
ภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทำให้พ่อค้าแม่ค้าหลายคนต่างกุมขมับและสร้างความหนักใจกับภาวะเศรษฐกิจ แต่หากมองในมุมกลับกันนั้น ก็ไม่ใช่เพียงแค่ร้านเราเพียงร้านเดียวที่ได้รับผลกระทบ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ กำลังใจ พยายามมองและคิดบวกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งหนึ่งที่ทำได้นั่นก็คือ เดินหน้าและเผชิญหน้ากับความจริงที่เกิดขึ้น อย่างน้องก็ถือซะว่ายังไม่ได้อะไรเลย บางครั้งเราอาจจะต้องยอมลดกำไรที่อาจจะขายได้ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยนั่นเอง
2. ปรับแต่งร้านในบรรยากาศต่าง ๆ
เปลี่ยนไฟ เปลี่ยนสี เปลี่ยนผนัง เปลี่ยนมุม เปลี่ยนบรรยากาศต่าง ๆ ในร้าน อันไหนสวย อันไหนดี ก็ลองปรับ ลองแต่งร้านด้วยธีมต่าง ๆ เพิ่มความสนุกสนาน เพิ่มลูกเล่นและรายละเอียดภายในร้าน เปลี่ยนเสื้อที่เคยใส่โชว์หน้าร้าน เปลี่ยนชุด การสร้างบรรยากาศสนุกสนานและเป็นกันเองก็ช่วยให้ดึงดูดความสนใจ แก่ลูกค้าได้เช่นกัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านค้าที่มีหน้าร้าน ก็อาจจะลองปรับและแต่งตัวให้เข้ากับเทศกาลต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าสนใจภายในร้าน
3. โละของเก่า ลด แลก แจก แถม / โปรโมชั่นสินค้าใหม่
ลูกค้ามักมีแรงดึงดูดกับของลดราคา ป้าย Sale มักจะดึงความสนใจของผู้คนได้เสมอ อะไรลดได้ก็ลด ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชั่น ลดราคาสินค้าเก่า เพื่อเพิ่มมูลค่าและเงินลงทุน ซึ่งในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว การลด แลก แจก แถม ก็อาจจะสร้างความน่าสนใจในการซื้อได้ เมื่อมีการลงสินค้าใหม่ก็จะมีกลุ่มลูกค้าที่เคยแวะเวียนมาดูให้ความสนใจได้เช่นเดียวกัน
4. ลีลาท่าทางในการขาย
เทคนิคในข้อนี้คงเป็นคุณสมบัติและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแม่ค้าแต่ละคน แต่ลีลาท่าทางในการขายเหล่านี้สามารถสร้างได้ค่ะ ลองฝึกพูดหน้ากระจก การใช้ถ้อยคำที่ดึงดูดใจ การใช้เพลง การใช้สื่อต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าสนใจก็นับว่าเป็นแนวทางที่ดีอยู่ไม่น้อย
5. เปลี่ยนที่ขาย
เมื่อลองปรับ ลองเปลี่ยน สร้างบรรยากาศ สร้างจุดเด่น เพิ่มจุดขาย ลด แลก แจก แถม โปรโมชั่น ถ้าทำทุกข้อที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้นยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรดีขึ้น อย่าเพิ่งหมดความหวังค่ะ ลองหาตลาดใหม่ ๆ ลองเปลี่ยนที่ขาย ทำเลใหม่ ๆ ก็น่าจะช่วยให้เพิ่มฐานลูกค้าให้มากขึ้นได้เช่นเดียวกัน