อย่าให้งานคือพระเจ้า ลืมไปรึเปล่าว่ายังมีครอบครัวที่รักคุณมาก

เคยมีคนบอกไว้ว่า รักงานได้แต่อย่ารักบริษัท เพราะบริษัทไม่ได้รักคุณ แนวคิดการทำงานที่ทุ่มเทสุดชีวิตทำงานหามรุ่งหามค่ำนี้อาจจะทำให้ใครบางคนบอบช้ำมามาก เช่น

• ทำงานจนเสียสุขภาพ
• ทำงานจนไม่มีเวลาให้ครอบครัวหรือคนรัก

ชีวิตเอาแต่ทำงานๆจนลืมใส่ใจสิ่งแวดล้อมรอบข้าง มองย้อนกลับมาอีกครั้งถึงได้รู้ว่าชีวิตขาดอะไรไปสักอย่างก็เลยโทษว่างานไม่ดี เอาอย่างนี้ดีมั้ยคะ เราลองมาปรับสมดุลชีวิตในการทำงานกันใหม่ ทำงานให้มีความสุข แบ่งเวลาดูแลตัวเองและครอบครัว จะไม่ทุ่มเทกับงานเลยก็ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ก้าวหน้าอีก ถ้าเรารู้จักแบ่งความสำคัญเราอาจจะทำงานได้ดีและยังมีความสุขก็ได้

ปรับชีวิตให้สมดุล อย่าหักโหมมากเกินไป

ชีวิตคนเราไม่ได้มีงานอย่างเดียว ยังมีครอบครัวและเพื่อนฝูงที่ยังรักคุณ อย่ามัวแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำเลิกงานดึกๆดื่นๆ ทำงานเสาร์อาทิตย์ หรือแม้แต่หอบงานมาทำที่บ้าน ใส่ใจคนรอบข้างบ้าง บางทีลูกๆอาจจะรอให้คุณพาไปเที่ยวอยู่ พ่อแม่รอให้คุณเคลียงานเสร็จแล้วกลับไปหา ภรรยารอกินข้าวพร้อมหน้า เพื่อนฝูงรอนัดเจอสังสรรค์

“อย่าให้งานคือพระเจ้า อย่าลืมว่ายังมีครอบครัวที่รักคุณมากกว่าที่บริษัทรัก!!”

รักสุขภาพของคุณ

คุณจะทำงานได้ก็ต่อเมื่อคุณแข็งแรงดี ถ้าคุณล้มหมอนนอนเสื่อทุกอย่างก็จบกัน ทำงานก็ไม่ได้ รายได้ก็ไม่มี ครอบครัวก็ลำบาก ทีนี้ก็เกิดความเครียด ยิ่งเครียดยิ่งไม่สบายหนักเข้าไปอีก เพราะฉะนั้นอย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือสุขภาพของคุณ ร่างการที่แข็งแรงเท่านั้นที่จะขับเคลื่อนทุกอย่างไปได้

รักครอบครัวของคุณด้วย

แบ่งเวลาให้ครอบครัวอยู่เสมอ จำไว้ว่าครอบครัวจะอยู่กับคุณเสมอไม่ว่าชีวิตคุณจะมีงานหรือไม่ก็ตาม ถ้าลูกคุณยังเด็ก คุณเอาแต่ทำงานเพื่อหาเงินมาลี้ยงลูกจนลืมไปว่าลูกอาจจะขาดความอบอุ่นก็ได้ ลูกอาจจะต้องการคุณมากกว่างาน คุณอาจจะพลาดโอกาสสุดพิเศษในชีวิต อดเห็นพัฒนาการของลูกที่ค่อยๆโตวันโตคืน วันหนึ่งเมื่อคุณพร้อมอยู่กับลูก ลูกอาจจะอยู่ได้โดยไม้ต้องการคุณแล้ว … พ่อแม่ก็เช่นกันนะคะ หาเวลาดูแลท่านบ้าง

หาเวลาพักผ่อนบ้าง

ชีวิตไม่ใช่งานอย่างเดียว ถ้าหากเครียดไปก็ต้องพักผ่อนบ้าง คนเมืองสมัยนี้เป็นโรคออฟฟิตซินโดรมกันเยอะ อาจจะด้วยเพราะงานหนักหรือเครียดสะสมนี่แหละค่ะ ด้วยวิถีชีวิตที่แก่งแย่งแข่งขันและเร่งรีบทำให้เราลืมมองความสวยงามตามธรรมชาติข้างทาง ถ้ามีวันหยุดยาวก็ไปพักผ่อนบ้างค่ะ เติมสีสันให้กับชีวิต ผ่อนคลายความที่เครียดสะสมมานานเพื่อจะได้เป็นการชาร์ตพลังแล้วกลับไปสู้ใหม่

อะไรก็ไม่ดีเท่าสมดุลหรอกค่ะ ทำงานเยอะก็ไม่ดี เอาแต่เที่ยวพักผ่อนอย่างเดียวก็ไม่ดี ต้องรู้จักแบ่งเวลาและแบ่งความสำคัญ เวลาไหนควรเป็นของครอบครัว เวลาไหนควรทุ่มเทกับงาน ไม่มีอะไรน่าภูมิใจเท่าการมีงานที่ก้างหน้าและมีครอบครัวที่อบอุ่น ทำให้ชีวิตสมดุลแบบนี้ถึงจะมีความสุขที่แท้จริง