ปลาซิวแก้ว เป็นปลาขนาดเล็ก รูปร่างเพรียวยาว ตัวใส มีริมฝีปากมีขากรรไกรเป็นแผ่นแบน และมีเขี้ยวแหลมโค้งขนาดเล็กมาก เกล็ดบางมากและหลุดร่วงได้ง่าย ครีบก้นมี 2 ตอน ตอนท้ายเห็นเป็นติ่งเล็ก ๆ แยกออกมา ลำตัวใสสีอมเหลืองอ่อนมีแถบสีเงินคาดกลางลำตัว หัวมีสีคล้ำเล็กน้อยออกสีเขียวอ่อน มีขนาดลำตัวประมาณ 4 เซ็นติเม็ตร และตัวใหญ่สุดพบประมาณ 6 เซ็นติเมตร
อาหารของปลาซิวแก้ว ได้แก่ แมลง ซึ่งมีวิธีการกินอาหารโดยการกระโดดงับขึ้นเหนือน้ำ และแพลงก์ตอนสัตว์ ซึ่งจะมีวิธีการจับด้วยการยกยอและใช้ไฟล่อในเวลากลางคืน ปลาซิวแก้วเป็นปลาที่ผู้บริโภคนิยมรับประทานโดยการนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลายชนิด เช่น ทำน้ำปลา , ปลาแห้ง , ปลาเจ่า เป็นต้น
วันนี้ สยามอาชีพ ขอนำเสนอเมนู ผัดฉ่าปลาซิวแก้วกรอบ ซึ่งเป็นเมนูที่สามารถรับประทานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือรับประทานเป็นอาหารว่างก็ได้ แต่ที่สำคัญคือสิงห์นักดื่มหลายคนนิยมนำอาหารเมนูนี้ไปทานเป็นกับแกล้มอยู่เสมอ เพราะรสชาติและความกรอบที่อร่อยลงตัว จึงทำให้หลายคนติดอกกติดใจในรสชาติ เราไปดูส่วนผสมและวิธีทำผัดฉ่าปลาซิวแก้วกรอบจากกุ๊กเทวดากันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไร
ส่วนผสมผัดฉ่าปลาซิวแก้วกรอบ
- ปลาซิวแก้วสด 200 กรัม
- พริกไทยเม็ด 10
- เม็ด กระเทียม 10 กลีบ
- พริกขี้หนูสวน 15 เม็ด
- ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
- ตะไคร้ 2 ต้น(ซอยเฉียง)
- ใบกะเพรา
- น้ำเปล่าสะอาด
- น้ำมันพืชเตรียมไว้ผัด
เครื่องปรุง
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 0.5 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรสหมู 1 ช้อนชา
วิธีทำผัดฉ่าปลาซิวแก้วกรอบ
- นำปลาซิวแก้วสดมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วพักไว้ให้แห้ง จากนั้นนำไปทอดให้เหลืองกรอบ แล้วตักพักไว้ให้เย็น
- นำพริกไทยเม็ด กระเทียม พริกขี้หนูสวน นำพริกไทยมาตำให้ละเอียดก่อน แล้วจึงใส่ที่กระเทียมและพริกขี้หนูสวนลงไปตำทีหลัง ตำพอหยาบ
- ผัดพริกที่ตำกับน้ำมันเล็กน้อยให้เหลืองหอม
- เติมน้ำเปล่าลงไป 3 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ผงปรุงรส น้ำตาลทราย ชิมรสออกหวาน – เค็ม ตามใจชอบ
- ได้ที่แล้วเอา ตะไคร้ซอย ใบมะกรูด ปลาที่ทอด ลงไปผัดคลุกให้เข้ากันแล้วใส่ใบกระเพราตามลงไปผัดพอสลด
- เสร็จแล้วตักใส่จานโรยพริกไทยป่นเล็กน้อย พร้อมเสริฟทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือเป็นเมนูทานเล่น และกับแกล้มก็ได้
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สูตรนี้ไม่ยากเลยใช่มั้ยค่ะ ถ้าหากเพื่อนๆ ทุกท่านได้ลองทำกันแล้ว ก็อย่าลืมนำรูปมาอวดให้เพื่อนๆ ท่านอื่นได้ดูกันด้วยนะค่ะ
ขอขอบคุณที่มาของสูตรอาหารนี้ : คุณ Manop Gatecare (กุ๊กเทวดา) ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน
เรียบเรียงโดย : www.siamarcheep.com (สยามอาชีพ)